ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนก.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า กรรมการบางคนของ BOJ เตือนว่า การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 จะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นเป็นไปอย่างล่าช้า และบั่นทอนเสถียรภาพในระบบการเงินของญี่ปุ่น
รายงานการประชุมระบุว่า ในขณะที่กรรมการ BOJ เห็นพ้องถึงความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากจำเป็นนั้น BOJ ยังกล่าวด้วยว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีต่อกำไรของสถาบันการเงินนั้น จะลดทอนความสามารถของสถาบันการเงินในการเพิ่มการปล่อยเงินกู้
“จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ในญี่ปุ่น”
กรรมการบางส่วนของ BOJ กล่าว
ขณะที่กรรมการอีกส่วนหนึ่งระบุว่า “หากจำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ระยะเวลาในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็จะล่าช้าออกไป และหากการแพร่ระบาดยืดเยื้อยาวนาน ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็จะนำไปสู่การสูญเสียตำแหน่งงาน, รายได้ภาคครัวเรือนได้รับผลกระทบ และการอุปโภคบริโภคชะลอตัวลง”
ในการประชุมเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ไว้ที่ระดับ 0%
ขณะเดียวกัน BOJ ได้ตัดสินใจคงมาตรการสนับสนุนภาคเอกชนวงเงินรวม 110 ล้านล้านเยน (1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งรวมถึงโครงการเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยสำหรับบริษัทเอกชน และเข้าซื้อหุ้นกู้ และตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น (Commercial Paper) หลังจากที่ได้เปิดตัวโครงการดังกล่าวในการประชุมเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ BOJ ยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวลง 4.7% และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะลดลง 0.5% ในปีงบประมาณ 2563 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.ปีหน้า อันเนื่องมาจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ย. 63)
Tags: BOJ, ญี่ปุ่น, เศรษฐกิจญี่ปุ่น, โควิด-19