นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ในสังกัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่กรมธุรกิจพลังงาน ได้กำหนดมาตรการการปรับเปลี่ยนชื่อเรียกของน้ำมันในกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลที่มีสัดส่วนผสมของไบโอดีเซล 10% ให้เป็นน้ำมันพื้นฐานของประเทศ
โดยจะมีการเปลี่ยนชื่อเรียกน้ำมันดีเซล ที่มีสัดส่วนผสมของไบโอดีเซลในสัดส่วน 10% จาก “น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10” เปลี่ยนชื่อเป็น “น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา” และจะเปลี่ยนชื่อเรียกน้ำมันดีเซลที่มีสัดส่วนผสมของไบโอดีเซลในสัดส่วน 7% จาก “น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา” เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7 ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
สำหรับการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวว่าเพื่อเป็นการสร้างสมดุลปาล์มน้ำมันทั้งระบบของประเทศให้มีความยั่งยืน ทำให้ความต้องการใช้ปาล์มน้ำมัน ทั้งภาคพลังงานและเพื่อการบริโภคมีความสมดุลกับปริมาณการผลิตในประเทศ เป็นการสนับสนุนเกษตรกร ลดปัญหามลพิษทางอากาศ โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7 จะเป็นน้ำมันทางเลือกสำหรับรถยุโรปและรถยนต์รุ่นเก่า (ที่ไม่สามารถใช้ B10 ได้) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 จะเป็นน้ำมันดีเซลทางเลือกสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่
ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่มีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ไม่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล (B100) มานานแล้ว การเปลี่ยนชื่อน้ำมันพื้นฐานได้มีผลการศึกษารองรับ โดยมีค่ายรถยนต์เกือบทุกค่ายให้การรับรองว่าสามารถใช้น้ำมันดีเซล B10 ได้ โดยเฉพาะรถยนต์ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา โดยผู้ใช้รถยนต์สามารถตรวจสอบว่ารถรุ่นใดใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาได้หรือไม่ จากเว็บไซต์ของกรมธุรกิจพลังงาน www.doeb.go.th หรือที่ศูนย์บริการหรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ของผู้ผลิตรถยนต์แต่ละยี่ห้อ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 63)
Tags: B10, B100, กรมธุรกิจพลังงาน, กระทรวงพลังงาน, นันธิกา ทังสุพานิช, น้ำมันดีเซล, น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา