นางอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนพิริยะ (TNP) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมั่นใจรายได้ปี 63 จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 10-15% หลังจากครึ่งปีแรกมีรายได้ 1,061.54 ล้านบาท เติบโต 12.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 943.76 ล้านบาท
ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังยังคงมีทิศทางการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะการเพิ่มเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคอีกเดือนละ 500 บาทนาน 3 เดือน รวมไปมาตรการ”คนละครึ่ง”ที่รัฐให้เงินสมทบไม่เกินคนละ 3,000 บาทใช้ซื้อสินค้าจำเป็น ซึ่งจะเป็นผลทางอ้อมให้ผู้ค้ารายย่อยเข้ามาซื้อสินค้าจากร้านสาขาของบริษัทไปจำหน่ายมากขึ้น
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังยังเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ซึ่งภาครัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศผ่านแคมเปญต่าง ๆ โดยเฉพาะ “เราเที่ยวด้วยกัน” คาดว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปกติ โดยจังหวัดเชียงรายนับเป็น 1 ในจังหวัดที่ได้รับความนิยมสำหรับการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว เชื่อว่าจะมีการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างคึกคัก
“สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยอดขายยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะเป็นสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีวิต แม้ว่าประชาชนมีความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และบางกลุ่มอาจจะตกงาน หรือว่าเงินในการจับจ่ายใช้สอยลดลง อาจจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ แต่ด้วยมาตรการของภาครัฐที่ออกมาจะช่วยหนุนให้ประชาชนมีความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว จะสนับสนุนให้บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก”
นางอมร กล่าว
บริษัทยังคงเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มอีก 4 แห่งในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะเปิดได้ทั้งหมด 5 แห่ง เพราะอีก 1 แห่งเกิดปัญหาการก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด ขณะที่ช่วงครึ่งปีแรกได้เปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 2 สาขา คือ อำเภอป่าแดด และอำเภอห้วยสัก จังหวัดเชียงราย ส่วนที่เหลืออีก 2 สาขาในจังหวัดเชียงรายจะเปิดในไตรมาส 4/63 นี้ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 63 มีสาขารวมกันทั้งสิ้น 32 สาขา
ปัจจุบัน TNP มีสาขาร้านค้าปลีกทั้งหมด 29 สาขา และสาขาร้านค้าส่ง 1 สาขา โดยสาขาส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดเชียงราย 24 สาขา พะเยา 4 สาขา และ เชียงใหม่ 2 สาขา
พร้อมกันนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการหาสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม โดยเฉพาะสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง จากการร่วมมือกับพันธมิตรนำสินค้าเข้ามาจำหน่าย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนเร็วๆนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ย. 63)
Tags: TNP, ธนพิริยะ, ธุรกิจค้าปลีก, ธุรกิจค้าส่ง, อมร พุฒิพิริยะ