กระทรวงพาณิชย์ของจีนได้ออกข้อบังคับใหม่ในวันนี้สำหรับบริษัทที่อยู่ในรายชื่อ “นิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ” โดยมุ่งเป้าไปที่บริษัทต่างชาติที่จีนระบุว่าเป็นอันตรายต่ออธิปไตย, ความมั่นคง หรือผลประโยชน์ด้านการพัฒนาประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อดังกล่าว อาจถูกห้ามนำเข้าหรือส่งออกสินค้าจากจีน รวมทั้งอาจถูกห้ามไม่ให้ลงทุนในจีนด้วย
นอกจากนี้ จีนยังกำหนดมาตรการอื่นๆ ได้แก่ การเรียกเก็บค่าปรับ, การห้ามเข้าประเทศ และการเพิกถอนใบอนุญาตทำงานหรือการพำนักอาศัยของพนักงานบริษัทต่างชาติเหล่านั้น
จีนประกาศข้อบังคับใหม่ดังกล่าว หลังจากล่าสุดเมื่อวานนี้ สหรัฐได้ประกาศห้ามประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันติ๊กต็อก (TikTok) และวีแชท (WeChat) ของจีน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์นี้เป็นต้นไป และห้ามแอปจีนทั้งสองดังกล่าวใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่จำเป็นในสหรัฐโดยพิจารณาจากความกังวลด้านความปลอดภัยและข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน
กระทรวงพาณิชย์ของจีนประณามการสั่งห้ามดังกล่าว และเรียกร้องให้สหรัฐยุติพฤติกรรมเพื่อกลั่นแกล้ง และการกระทำที่ไม่ถูกต้อง พร้อมทั้งระบุในแถลงการณ์ว่า “จีนจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของบริษัทจีนอย่างถึงที่สุด”
ก่อนหน้านี้จีนยืนยันที่จะจัดทำรายชื่อบริษัทที่เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของจีน หลังจากที่สหรัฐกำหนดมาตรการคว่ำบาตรและขึ้นบัญชีดำกับหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน
แม้ว่าจีนได้ประกาศกฎข้อบังคับต่างๆ ดังกล่าว แต่ก็ยังไม่เคยมีการเผยแพร่รายชื่อบริษัทต่างชาติเหล่านั้น โดยในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โกลบอล ไทม์ส ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่า จีนอาจกำหนดให้บริษัทต่างๆ อาทิ แอปเปิล, ควอลคอมม์ และซิสโก อยู่ในรายชื่อดังกล่าวเพื่อตอบโต้กับการที่สหรัฐขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ย. 63)
Tags: TikTok, กระทรวงพาณิชย์, ความมั่นคง, คว่ำบาตร, จีนสหรัฐ, สงครามการค้า