- ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (11.00 น.)
- ผู้ติดเชื้อสะสม 3,497 คน (7)
- เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ = 0 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) = 7 ราย
- รักษาหายแล้ว 3,328 คน (+3)
- ผู้ป่วยรักษาอยู่โรงพยาบาล 111 คน (+4)
- เสียชีวิตสะสม 58 คน (+0)
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเติมอีก 7 คน โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากบังคลาเทศ, ปากีสถาน และกาตาร์ ประเทศละ 1 คน และซาอุดิอาระเบีย 4 คน ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,497 คน เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,445 คน และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 559 คน และวันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 3 คน รวมเป็น 3,328 คน ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 111 คน ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 คน
โดยผู้ที่เดินทางมาจากบังคลาเทศ 1 คน เป็นชายสัญชาติบังคลาเทศ อายุ 42 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 2 ก.ย.63 เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) ในกรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ในวันที่ 13 ก.ย.63 ผลตรวจพบเชื้อแต่ไม่มีอาการ
ผู้ที่เดินทางมาจากกาตาร์ 1 คน เป็นชายไทย อายุ 41 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 13 ก.ย.63 เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 1 คน เข้าพัก State Quarantine (SQ) ใน จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 ผลตรวจพบเชื้อแต่ไม่มีอาการ
ผู้ที่เดินทางมาจากปากีสถาน 1 คน เป็นเด็กชาย สัญชาติปากีสถาน อายุ 10 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 13 ก.ย.63 และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
และมาจากซาอุดิอาระเบีย 3 คน เป็นนักเรียนหญิงไทย 2 ราย อายุ 9 และ 14 ปี และชายไทยอายุ 61 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 5 ก.ย.63 เข้าพัก State Quarantine ในกรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 ผลตรวจพบเชื้อ โดยผู้ป่วยบางคนมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น น้ำมูก
ขณะที่อีก 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 50 ปี อาชีพรับจ้าง มีประวัติเคยติดเชื้อมาก่อนเมื่อเดือนก.ค. 63 โดยเดินทางมาจากซาอุดิอาระเบีย ถึงไทยเมื่อวันที่ 5 ก.ย.63 เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 8 ราย เข้าพัก State Quarantine ในกรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 ผลตรวจพบเชื้อ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อรวม 30,348,579 คน และเสียชีวิต 950,545 คน โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดคือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 6,874,596 คน เสียชีวิต 202,213 คน, อินเดีย จำนวน 5,212,686 คน เสียชีวิต 84,404 คน, บราซิล จำนวน 4,457,443 คน เสียชีวิต 135,031 คน, รัสเซีย จำนวน 1,085,281 คน เสียชีวิต 19,061 คน และ เปรู จำนวน 750,098 คน เสียชีวิต 31,146 คน ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 130
สำหรับสถานการณ์ที่น่าสนใจในต่างประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักรยืนยันมีผู้ป่วยโควิด-19 เกือบ 4,000 คนภายในวันดียว เป็นสถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่มีรายงานว่ารัฐบาลเตรียมล็อกดาวน์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะอังกฤษ ซึ่งมีสถิติผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากในรอบ 7 วัน ล่าสุดนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นตัน ตั้งป้าหมายตรวจคัดกรองให้ได้ 500,000 ตัวอย่างต่อวันภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ ค้นหาผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุดโดยเฉพาะผู้ซึ่งไม่แสดงอาการ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการล็อกดาวน์ทั้งประเทศเป็นครั้งที่สอง ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดขึ้นในช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาส
ขณะที่สภาส่งออกสัตว์ปีกและไข่แห่งสหรัฐอเมริก เปิดเผยว่า จีนได้สั่งระงับการนำเข้าสัตว์ปีกจากโรงงานแห่งหนึ่งของบริษัทโอเค ฟู้ดส์ ในเมืองฟอร์ตสมิธ รัฐอาร์คันซอ หลังพบคนงานติดเชื้อโควิด-19 หลายร้อยราย โรงงานของโอเค ฟู้ดส์ เป็นโรงงานแปรรูปสัตว์ปีกแห่งที่ 2 ของสหรัฐที่ถูกจีนสั่งระงับการนำเข้า หลังจากพบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มคนงาน โดยก่อนหน้านี้ จีนได้สั่งระงับนำเข้าผลิตภัณฑ์จากโรงงานแห่งหนึ่งของบริษัทไทสัน ฟู้ด อิงค์ ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าเนื้อสัตว์รายใหญ่ของโลก ได้สั่งระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากโรงงานในประเทศต่างๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 63)
Tags: COVID-19, ศบค., ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19, โควิด-19