ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการผลิตสหรัฐ และราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ทรุดตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,399.81 จุด เพิ่มขึ้น 143.78 จุด หรือ +0.51%
- ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,248.92 จุด เพิ่มขึ้น 23.40 จุด หรือ +0.73%
- ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,273.40 จุด เพิ่มขึ้น 122.47 จุด หรือ +1.34%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 50.9 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 47.8 ในเดือนธ.ค. โดยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นในเดือนม.ค. หลังจากที่หดตัวติดต่อกัน 5 เดือน
นักลงทุนคลายความกังวลในระดับหนึ่งเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโคโรนาแพร่ระบาด หลังจากมีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ไม่แนะนำให้ประเทศต่างๆระงับเที่ยวบินไปจีนในความพยายามสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่ธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดเม็ดเงิน 1.2 ล้านล้านหยวนเข้าสู่ระบบการเงินเมื่อวานนี้ เพื่อสกัดผลกระทบจากไวรัสโคโรนาแพร่ระบาด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นนำตลาด โดยหุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ทะยานขึ้น 3.48% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) พุ่งขึ้น 2.17% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นเฟซบุ๊ก บวก 1.1% หุ้นอินเทล บวก 0.7% หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 1.6%
หุ้นไนกี้ พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากนักวิเคราะห์จากยูบีเอส และเจพีมอร์แกน ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไนกี้ ขณะที่หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ พุ่งขึ้น 2.17% โดยหุ้นไนกี้ และหุ้นวอลท์ ดิสนีย์ เป็น 2 ใน 30 หลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์
หุ้นเทสลา ทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 19.9% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทอาร์กัส รีเสิร์ช ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นของเทสลาขึ้นสู่ระดับ 808 ดอลลาร์ โดยเชื่อว่าแนวโน้มยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาจะยังคงแข็งแกร่ง
หุ้นจีเลียด ซายส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 5% หลังจากมีรายงานว่า ทางบริษัทจะทำการทดสอบยาต้านไวรัสชนิดใหม่ซึ่งมีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2.2% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.8% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 1.4% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ดิ่งลง 1.47%
นักลงทุนจับตาการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ของประธานาธิบดีทรัมป์ ปธน.ทรัมป์ในวันนี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพุธ เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย รวมทั้งจับตาวุฒิสภาสหรัฐซึ่งลงมติต่อญัตติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่งในวันพุธ เวลา 16.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือวันพฤหัสบดี เวลา 04.00 น.ตามเวลาไทย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ย.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP, ดุลการค้าเดือนธ.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.พ. 63)
Tags: dowjones, Nasdaq, S&P500, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก