นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ถึงปรับฐานคล้ายตลาดภูมิภาคที่เช้านี้ติดลบราว -0.3% ถึง -0.5% หลังเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ย-ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยยาวไปถึงปี 2566 และยังกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจโลกหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ยังแรง นโยบายการคลังล่าช้าทำให้ยังมีความเสี่ยง ส่วนบ้านเรานโยบายกระตุ้นการบริโภค”คนละครึ่ง”หนุน GDP ราว 0.24% แต่จำกัดใช้ไม่เกิน 100 บาท/คน/วัน และเน้นค้าปลีกอย่างร้าน”ธงฟ้า”ทำให้น่าจะเป็นผลบวกต่อตลาดจำกัด จึงมองวันนี้คงจะเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัว พร้อมให้ติดตามการประชุม BOJ-BoE โดยให้แนวรับ 1,287-1,279 แนวต้าน 1,301-1,305 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-กลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ถึงปรับฐาน คล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบราว -0.3% ถึง -0.5% หลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566 และประธานเฟดยังมีความกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจโลก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ยังรุนแรงอยู่ อีกทั้งนโยบายการคลังก็ล่าช้าด้วยทำให้ยังมีความเสี่ยง ซึ่งตลาดเป็นห่วงเพราะได้มีการพูดลักษณะนี้มา 4 รอบแล้ว
ส่วนตลาดบ้านเราก็มีนโยบายกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศจากโครงการ”คนละครึ่ง” ก็จะช่วยหนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ราว 0.24% โดยเน้นพวกค้าปลีกเป็นหลัก และจำกัดการใช้ไม่เกิน 100 บาท/คน/วัน ทำให้เป็นผลบวกต่อตลาดจำกัด เพราะคงจะเน้นไปที่พวกร้านธงฟ้า ทั้งนี้วันนี้ตลาดฯคงจะเป็นลักษณะของการเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัว
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17 ก.ย.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,287-1,279 จุด ส่วนแนวต้าน 1,301-1,305 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,032.38 จุด เพิ่มขึ้น 36.78 จุด (+0.13%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,050.47 จุด ลดลง 139.85 จุด (-1.25%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,385.49 จุด ลดลง 15.71 จุด (-0.46%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 58.91 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 5.15 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 56.61 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 49.22 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 1.61 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 9.86 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ก.ย.63) 1,293.48 จุด เพิ่มขึ้น 7.30 จุด (+0.57%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,200.61 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ก.ย.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 ก.ย.63) ปิดที่ 40.16 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.88 ดอลลาร์ หรือ 4.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ก.ย.) อยู่ที่ 0.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.13 ทรงตัวจากวานนี้ หลังมติเฟดเป็นไปตามตลาดคาด-ส่งสัญญาณดอกเบี้ยต่ำยาว
- ศบศ.อัด 5.1 หมื่นล้านบาท ดันโครงการคนละครึ่ง กระตุ้นบริโภค 24 ล้านคน หนุนจีดีพี 0.24% ให้สิทธิบัตรสวัสดิการรัฐ 14 ล้านคน เพิ่มเงินคนละ 1,500 บาท รวม 3 เดือน ประชาชนทั่วไป 10 ล้านคน รัฐหนุนวันละ 100 บาท ตัดสิทธิร้านสะดวกซื้อ เพิ่มมาตรการดึงลงทุน ปรับสมาร์ทวีซ่า ดึงนักลงทุนมาทำงานพ่วงซื้ออสังหาริมทรัพย์
- “บีทีเอส” จ่อยื่นศาลปกครอง กรณี รฟม.แก้เงื่อนไขประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ยืนยันทำให้ได้เปรียบเสียเปรียบ ไม่เป็นธรรม ลุ้น ครม.เคาะสัญญาต่อสัมปทานสายสีเขียว 30 ปี ชี้รอความเห็นรมว.คลัง ตั้งเป้าเปิด ให้บริการถึงสถานีคูคต ธ.ค.นี้
- บอร์ด กสทช.อนุมัติร่างฯประกาศคุมจานดำให้ใช้คลื่นความถี่สูงกว่า 3500 เมกะเฮิรตซ์ แก้ปัญหาถูกคลื่น 5G รบกวน หลังประชาชนร้องเรียนดูทีวีผ่านจานดาวเทียมไม่ได้ พร้อมเดินหน้าประชาพิจารณ์ผู้เกี่ยวข้อง ก.ย.นี้ ก่อนประกาศราชกิจจานุเบกษาปลายปี
- น.ส.จริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์รายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 มีความคืบหน้า แต่ภาพรวมความต้องการใช้ถุงมือยางทั่วโลกยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณเฉลี่ยปีละ 15-20% เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนเกิดโรคระบาดมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 8-12% ต่อปี
- “สำนักงบประมาณ” ผวาความไม่แน่นอนทางการเมืองรุนแรงหนักถึงขั้นยุบสภา หวั่นกระทบงบประมาณปี 2564 สะดุด ก่อนร่อนหนังสือเปิดทาง ส่วนราชการใช้กรอบงบประมาณปี 2563 ไปพลางก่อน
- วิทยุการบินแห่งประเทศไทย สรุปเที่ยวบินเดือน ส.ค. รวม 30,360 เที่ยวเพิ่มขึ้น 9.8% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา หลังโควิดเริ่มคลี่คลายคนไทยเริ่มกลับมาท่องเที่ยวภายในประเทศกันมากขึ้น
- ธปท.รายงานตัวเลขโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลน 500,000 ล้านบาท ซึ่งจะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 22 ต.ค.นี้ ได้มีการอนุมัติสินเชื่อให้ลูกหนี้จนถึงวันที่ 8 ก.ย.63 ที่ผ่านมารวม 69,086 ราย เป็นวงเงินสินเชื่อรวมทั้งสิ้น 115,520 ล้านบาท และหลังจากที่โครงการดังกล่าวสิ้นสุด ธปท.จะต่ออายุโครงการออกไปอีก 6 เดือน ก่อนตามที่กฎหมายได้ให้ช่องไว้ให้ต่ออายุได้ 6 เดือนต่อเนื่อง 2 ครั้ง เนื่องจากช่วงที่ผ่านมายังเป็นช่วงของการพักชำระหนี้ ทำให้เอสเอ็มอีจำนวนหนึ่งยังไม่ต้องการสินเชื่อใหม่เพิ่มเติม แต่หลังจากกลับมาผ่อนชำระปกติ อาจจะมีเอสเอ็มอีที่ต้องการสินเชื่อเพื่อนำไปหมุนเวียนในการทำธุรกิจเพิ่มเติม หลังจากปรับโครงสร้างหนี้เดิมแล้ว และการขอสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำในโครงการนี้จะสามารถเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้ได้
หุ้นเด่นวันนี้
- SAWAD-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 54,923,477 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อายุไม่เกิน 5 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 100 บาท/หุ้น กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 28 ก.พ.66 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 29 ส.ค.68
- GFPT (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 15.6 บาท คาดกำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน Q2/63 และจะฟื้นตัว Q-Q ใน Q3/63 ได้อานิสงส์จากราคาไก่ Q3/63 ที่ฟื้นตัว +15% Q-Q, +2% Y-Y รวมถึงผลบวกจากการ Reopen ส่วนปี 2564 คาดกลับมาเติบโตโดดเด่นจากกำลังการผลิตใหม่ที่จะทยอยติดตั้งแล้วเสร็จหลังถูกไฟไหม้ คาดกำไรปกติปีนี้ -11% Y-Y ก่อนพลิกมา +18% Y-Y ในปี 64 ส่วน Valuation ไม่แพง ซื้อขายที่ 2564PER เพียง 12 เท่าและ Downside จำกัดที่แนวรับสำคัญ 12 บาท
- PTTEP (กรุงศรี)“ซื้อ”เป้า IAA Consensus 96 บาท ราคาหุ้นลงมาลึก น้ำมันดิบเริ่มฟื้นเป็น Sentiment บวกกับ PTTEP โดยตรง (Oil link) แนวโน้ม Q3/63 มีโอกาสเพิ่มขึ้น qoq ไม่มีแรงกดดันจาก Stock gain /Stock loss เหมือนโรงกลั่น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ย. 63)
Tags: GFPT, PTTEP, SAWAD, SET, SET Index, กรภัทร วรเชษฐ์, ตลาดหุ้น, หุ้นไทย, โนมูระ พัฒนสิน