คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในวันนี้
และส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566
นอกจากนี้ เฟดมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวน้อยกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่ตัวเลขการว่างงานจะลดต่ำลง
ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของเฟดได้ระบุถึงการกำหนด”เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย” ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ของเฟดในการทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่น และสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
“จากการที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดอย่างต่อเนื่อง FOMC จึงตั้งเป้าหมายที่จะให้อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2% ในบางช่วงเวลา เพื่อให้อัตราเฉลี่ยของเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 2% และให้ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวอยู่ที่ระดับ 2% โดย FOMC จะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว”
แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ยังระบุว่า “เฟดจะรักษาช่วงเป้าหมายเงินเฟ้อดังกล่าว จนกว่าสภาวะในตลาดแรงงานจะสอดคล้องกับการประเมินของเฟดโดยมีการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และเงินเฟ้อได้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2% ขณะที่มีแนวโน้มสูงกว่า 2% เล็กน้อยในบางช่วงเวลา”
นอกจากนี้ เฟดระบุว่าจะยังคงถือครองพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดการเงิน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ย. 63)
Tags: Fed, ดอกเบี้ย, ธนาคารกลางสหรัฐ, เงินเฟ้อ, เจอโรม พาวเวล