น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourist Visa) หรือ STV ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยจะเปิดให้เข้าประเทศได้ตั้งแต่เดือนต.ค.63
ทั้งนี้ มีเงื่อนไขสำหรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษนี้ คือ
- ต้องเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประสงค์จะเดินทางมาพักในประเทศไทยแบบระยะยาว (Long Stay)
- ต้องยอมรับมาตรการด้านสาธารณสุขในประเทศไทยเรื่องการกักตัว 14 วัน
- มีเอกสารหลักฐานของการเข้ามาพำนักระยะยาวในไทย เช่น เอกสารการชำระเงินของโรงแรม เอกสารการเช่าที่พักคอนโดมิเนียม เป็นต้น
“บุคคลต่างด้าว จะต้องผ่านการดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด มีสิทธิขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ Special Tourist Visa (STV) โดยเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ครั้งละ 2,000 บาท ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลา 90 วัน และภายหลังจากที่ครบกำหนดเวลาอนุญาต 90 วันแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมีอำนาจอนุญาตให้อยู่ต่อไปได้อีก 2 ครั้ง ๆ ละ 90 วัน โดยคนต่างด้าวต้องยื่นคำขอตามแบบ และเสียค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศ จนถึงวันที่ 30 ก.ย.64”
น.ส.ไตรศุลีกล่าว
สำหรับแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษนี้ เพื่อต้องการนำนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวม ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไป ไม่สามารถเดินทางได้ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว
แต่เนื่องจากประเทศไทย สามารถบริหารจัดการและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค จนได้รับการจัดอันดับประเทศที่มีความปลอดภัยเป็นอันดับ 1 ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง ทำให้คนต่างด้าวที่เรียกว่ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีศักยภาพจากทุกประเทศทั่วโลกมีความต้องการเดินทางเข้ามาพร้อม ครอบครัวเพื่อมาพำนักระยะยาวภายในประเทศไทย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้หลักจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศไทย นำเงินตราเข้าสู่ประเทศไทยจำนวนไม่น้อยกว่า 2 ล้านล้านบาท เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ภายในประเทศขาดรายได้และได้รับผลกระทบในทุกภาคส่วน รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยว ชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาพำนักระยะยาวภายในประเทศไทยในพื้นที่ปิด ที่สามารถควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้
ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายว่าสามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ เดินทางเข้ามาประเทศไทยได้สัปดาห์ละ 100-300 คน หรือไม่เกินเดือนละ 1,200 คน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศไทยประมาณ 1,200 ล้านบาท/เดือน
“นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา ต้องแจ้งความจำนงผ่านตัวแทนบริษัทของ ททท. ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นตัวกลางในการรวบรวมข้อมูลนักท่องเที่ยว และจะช่วยเรื่องวีซ่า รวมทั้งเอกสารต่างๆ”
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ที่ประชุมครม.วันนี้ ได้มีการหารือแนวทางการออกวีซ่านักท่องเที่ยวแบบใหม่ดังกล่าว แต่ต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) อีกครั้งหนึ่งเพราะต้องนำไปรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ก่อน แต่สิ่งสำคัญเมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา ก็ต้องเข้ากักตัวใน State Quarantine ทุกคน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 63)
Tags: ครม., นักท่องเที่ยว, ประชุมคณะรัฐมนตรี, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ลองสเตย์, ไตรศุลี ไตรสรณกุล