รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียประกาศอัดฉีดงบประมาณเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เนื่องจากโควิด-19 เพิ่มอีก 3 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (2.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งรวมถึงมาตรการลดหย่อนภาษีและแจกเงินสด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มาตรการล่าสุดนี้ส่งผลให้เม็ดเงินช่วยเหลือของรัฐวิกตอเรียเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เนื่องจากรัฐวิกตอเรียเผชิญการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดมาตั้งแต่ต้นเดือนส.ค. และคาดว่าจะต่อเนื่องต่อไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน
นายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย เปิดเผยว่า “เพื่อให้รัฐของเราฟื้นตัว เราต้องการให้ภาคธุรกิจของเราฟื้นตัวด้วย โดยเรากำลังดำเนินการในขั้นตอนแรกเพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจว่าเราจะผ่านสถานการณ์นี้ไปพร้อมกันได้”
รายงานระบุว่า ส่วนหนึ่งของงบประมาณสนับสนุนธุรกิจใหม่นั้น เงินช่วยเหลือกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะนำไปสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์มากที่สุด
ทั้งนี้ ธุรกิจส่วนบุคคลสามารถรับเงินช่วยเหลือได้ถึง 20,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (14,500 ดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนกลุ่มที่อยู่ในอุตสาหกรรมการบริการจะสามารถรับได้สูงสุด 30,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (21,800 ดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากความเสียหายจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์
นอกจากนี้ งบประมาณช่วยเหลือยังถูกใช้เพื่อช่วยเหลือธุรกิจต่าง ๆ ในการปรับตัวสู่สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจออนไลน์ใหม่ด้วยเงินสนับสนุน 44 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงซอฟต์แวร์และการฝึกอบรมที่มีประโยชน์
สำหรับในวันนี้ รัฐวิกตอเรียรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่น้อยที่สุดน้บแต่ปลายเดือนมิ.ย. โดยมีผู้ป่วยใหม่ 35 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ย. 63)
Tags: มาตรการช่วยเหลือ, รัฐวิกตอเรีย, ล็อกดาวน์, ออสเตรเลีย, แดเนียล แอนดรูวส์