นายสันธิษณ์ วัฒนกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสนับสนุนการปฏิบัติงาน สายงานบัญชีและการเงิน บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง และผลประกอบการจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกหลังจากกรมบังคับคดีกลับมาจัดการขายทอดตลอดได้อีกครั้ง ในขณะเดียวกันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการตั้งบูธจำหน่ายสินทรัพย์รอการขาย (NPAs) ได้หลังจากมีการคลายล็อกมาตรการปิดเมือง (Lockdown)
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขายทรัพย์หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) และ NPAs ขนาดใหญ่ให้กับลูกค้า 2-3 ราย โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆนี้ แม้ว่าจะไม่สามารถกดำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนได้ เนื่องจากจะต้องมีการวางเงินในการเข้าซื้อและขั้นตอนอื่นๆ อีก
บริษัทยังคงเป้าหมายการซื้อหนี้เสียในปีนี้ที่ราว 10,000-12,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกซื้อหนี้เสียไปแล้วกว่า 8,000 ล้านบาท โดยการซื้อหนี้เสียยังคงให้ความสำคัญกับการคัดเลือกอย่างระมัดระวัง และจะต้องมีความมั่นใจว่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมองว่ายังมีโอกาสในการซื้อหนี้เสียอีกมาก เนื่องจาก NPLs ที่เกิดจากผลกระทบของสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่ออกมาสู่ตลาดเต็มที่ ซึ่งแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นภายหลังจากสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือของทางการคาดว่าจะมีออกมาเป็นจำนวนมากในช่วงต้นปี 64
“นอกจากแผ่นปกติแล้ว เรายังมีการขยายตลาดไปยังระบบออนไลน์มากขึ้น โดยในช่วงของโปรโมชั่น 9.9 ที่ผ่านมาเราก็ได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดี และเราก็จะยังคงดำเนินนโยบายการขยายตลาดในกลุ่มออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะเข้ามาหนุนตลาดปกติได้ดี”
นายสันธิษณ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ย. 63)
Tags: BAM, ขายทอดตลาด, บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์, สันธิษณ์ วัฒนกุล, หนี้เสีย, หุ้นไทย