วุฒิสภาสหรัฐลงมติเมื่อวันศุกร์ด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 49 เสียงคัดค้านการเบิกพยานและการรวบรวมหลักฐานใหม่ในคดีถอดถอนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในความผิดข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบและขัดขวางกระบวนการสอบสวนของรัฐสภา
จากกรณีที่ปธน.ทรัมป์สั่งให้ผู้นำยูเครนสอบสวนนายโจ ไบเดน คู่แข่งทางการเมืองของเขาเพื่อหวังผลสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย.ปีนี้
วุฒิสภาซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากลงมติดังกล่าวเพื่อขัดขวางความพยายามของพรรคเดโมแครตที่จะฟังคำให้การจากพยานต่างๆ รวมถึงนายจอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐซึ่งเชื่อว่าเป็นบุคคลที่รู้เรื่องเกี่ยวกับความพยายามของปธน.ทรัมป์ที่จะกดดันยูเครนให้สอบสวนนายไบเดน
ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐได้อนุมัติวันลงมติครั้งสุดท้ายสำหรับข้อกล่าวหาในการถอดถอนปธน.ทรัมป์ในวันพุธที่ 5 ก.พ.นี้ เวลา 16.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลา 04.00 น.ตามเวลาไทยในวันพฤหัสบดีที่ 6 ก.พ.
ก่อนหน้านี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.เห็นชอบต่อการถอดถอนปธน.ทรัมป์ใน 2 ข้อหา ซึ่งได้แก่ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส ซึ่งทำให้ปธน.ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 3 ที่ถูกสภาผู้แทนฯ ลงมติถอดถอนอย่างเป็นทางการ และเผชิญกับการไต่สวนในวุฒิสภา
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ
โดยนายไบเดนเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ ซึ่งหากนายไบเดนถูกสกัดให้ออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย. ปธน.ทรัมป์ก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 63)
Tags: Donald Trump, เลือกตั้งสหรัฐ, โจ ไบเดน, โดนัลด์ ทรัมป์