เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ บริษัทด้านการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ รุกลงทุนเป็นมูลค่าสูงถึง 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (2.336 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีงบการเงินที่สิ้นสุดในดือนมี.ค. 2563 ซึ่งเป็นวงเงินลงทุนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 โดยเพิ่มการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มการเงิน และกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตในจีน, ยุโรป และสหรัฐ
แต่เทมาเส็กรายงานว่า มูลค่าสุทธิของพอร์ทการลงทุน ลดลง 2.2% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 3.06 แสนล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในรอบ 12 เดือนที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. 2563 ขณะที่นายลิม บุน เฮง ประธานเทมาเส็กเตือนว่า แนวโน้มการระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกไม่มีความแน่นอน
นายลิมระบุว่า “แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงไม่แน่นอน เราอาจเห็นการแพร่ระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 ที่มากขึ้นรอบโลกในช่วงหลายเดือนข้างหน้า”
รายงาน Temasek Review 2020 ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ระบุว่า เทมาเส็กยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มบริการการเงิน และกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เทมาเส็กเข้าลงทุนในบริษัทด้านเทคโนโลยีและการเงินของสหรัฐ อาทิ Duck Creek Technologies ซึ่งเป็นบริษัทด้านซอฟท์แวร์, บริษัท Blend ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มปล่อยกู้ระบบดิจิทัล และบริษัท BlackRock ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของโลก และลงทุนในบริษัท ManoMano ซึ่งเป็นตลาดออนไลน์สำหรับผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านของยุโรป รวมถึงบริษัท MiningLamp ของจีนที่ทำธุรกิจโซลูชั่นด้านบิ๊กดาต้า
ส่วนหุ้นในกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตที่เทมาเส็กเข้าลงทุนได้แก่ AIER Eye Hospital ของจีน รวมถึง CareBridge และ Beam Therapeutics ของสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 63)
Tags: จีน, ซื้อหุ้น, ยุโรป, สหรัฐ, สิงคโปร์, หุ้นเทคโนโลยี, เทมาเส็ก