นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเสียงคัดค้านโครงการ “ภูเก็ตโมเดล” ว่า รัฐบาลพร้อมที่จะผลักดันโครงการและผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนมีรายได้ แต่ผู้ประกอบการต้องทำความเข้าใจกับผู้ที่เห็นต่าง
พร้อมยืนยันว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ไม่ได้ปล่อยให้มีการเดินทางได้โดยอิสระ ต้องมีการจำกัดพื้นที่ รวมทั้งมีมาตรการคัดกรองโรค ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้และสร้างงานในพื้นที่ และจากการลงพื้นที่ยืนยันว่าคนภูเก็ตอยากให้ดำเนินโครงการนี้
นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น แต่รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนผ่อนคลายมาตรการในทุกจังหวัด โดยการดำเนินการจะต้องได้รับการยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุข แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ เนื่องจากยังมีเสียงคัดค้าน และหากจะเดินหน้าโครงการต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อสรุปมาตรการต่างๆที่จะเสนอจากพื้นที่
โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมดูแลหากเกิดกรณีการติดเชื้อขึ้น ทั้งความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาล เวชภัณฑ์ เพราะจะกลัวโควิด-19 โดยไม่ทำอะไรเลยไม่ได้ ส่วนการพัฒนาวัคซีน อยู่ระหว่างการร่วมพัฒนากับหลายๆสถาบัน โดยใช้งบประมาณจากงบกลาง 1,000 ล้านบาท ที่ได้รับการอนุมัติ ร่วมพัฒนากับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงงบจากเงินกู้กว่า 3,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะเข้าโครงการกาวี โคแวค ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การกำกับขององค์การอนามัยโลก เพื่อร่วมกันพัฒนาและวิจัยวัคซีน โดยการจะเข้าร่วมโครงการนี้ต้องหารือร่วมกันในที่ประชุม ศบค. และคณะรัฐมนตรี (ครม.)
อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ปฏิเสธกระแสข่าวที่รัฐบาลไม่สนับสนุนการวิจัยวัคซีนของบริษัทใบยา ไฟโต ฟาร์ม จำกัด โดยยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนงบประมาณแต่จะต้องยื่นขอรับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการ ประกอบกับต้องมีข้อมูลเอกสารอ้างอิงในการวิจัยด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ย. 63)
Tags: COVID-19, กระทรวงสาธารณสุข, กาวี โคแวค, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ท่องเที่ยว, ท่องเที่ยวไทย, บุคลากรทางการแพทย์, ภูเก็ต, ภูเก็ตโมเดล, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, องค์การอนามัยโลก, อนุทิน ชาญวีรกูล, ออกซ์ฟอร์ด, โควิด-19, ใบยา ไฟโต ฟาร์ม