บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ระดับโลกของสหรัฐเปิดเผยว่า ไม่ว่าจะมีความจำเป็นเร่งด่วนเพียงใดก็ตามในการรับมือกับโรคโควิด-19 พวกเขาก็จะไม่ร่นระยะเวลาการทดลอง และรีบผลิตวัคซีนออกมา
บรรดาซีอีโอของบริษัทอีไล ลิลลี่, กิลเลียด, ไฟเซอร์, โรช และเมิร์ค กล่าวในการประชุมออนไลน์ที่จัดขึ้นโดยสมาพันธ์นานาชาติของสมาคมและผู้ผลิตเภสัชภัณฑ์ (IFPMA) ของสวิตเซอร์แลนด์ว่า การผลิตวัคซีนได้ถูกโยงให้เป็นเรื่องการเมือง และระบุว่า พวกเขากำลังถูกกดดันให้เร่งการผลิตวัคซีน
โธมัส คูนี ผู้อำนวยการของ IFPMA ระบุว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุดเกี่ยวกับวัคซีน เพราะเราวิตกเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านวัคซีน, เกี่ยวกับความเชื่อมั่นในวัคซีน และการเสียชีวิต”
“เราต้องการให้หน่วยงานต่างๆ ปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดที่เป็นไปได้” นายคูนีกล่าว โดยระบุถึงองค์กรด้านกฎระเบียบต่างๆ อาทิ องค์การอาหารและยา (FDA) ในสหรัฐ และในประเทศอื่นๆ
เคนเนธ ซี ฟราเซียร์ ซีอีโอของเมิร์คระบุว่า การผลิตวัคซีนจะต้องยึดถือมาตรฐานสูงสุดด้านคุณภาพ, ความปลอดภัย และประสิทธิภาพในทุกๆ ที่
อัลเบิร์ต โบร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์ระบุว่า “เราจะไม่ยื่นขออนุมัติการผลิตวัคซีนใดๆ จนกว่าเราจะมั่นใจว่า วัคซีนนั้นมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยจะไม่มีแรงกดดันทางการเมืองใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง”
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานก่อนหน้านี้ว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาให้สถานะ “frast track” ให้แก่วัคซีนโควิด-19 ที่อยู่ในขั้นทดลองและพัฒนาโดยบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในอังกฤษ เพื่อนำวัคซีนดังกล่าวมาใช้ในสหรัฐ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ย. 63)
Tags: COVID-19, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, องค์การอาหารและยา, อัลเบิร์ต โบร์ลา, อีไล ลิลลี่, เคนเนธ ซี ฟราเซียร์, เมิร์ค, แอสตร้าเซนเนก้า, โควิด-19, โรช, ไฟเซอร์