นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป แถลงสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า สถานการณ์ถึงวันที่ 30 ม.ค.63 ยังคงพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจากต่างประเทศ 14 ราย (กลับบ้านแล้ว 6 ราย อีก 8 รายนอนโรงพยาบาล) ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศไทย
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 3-29 ม.ค.63 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวังทั้งหมด 202 ราย คัดกรองจากสนามบิน 31 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 171 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 67 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 135 ราย โดยในวันที่ 29 ม.ค.63 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่จำนวน 44 ราย
ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในหลายประเทศสร้างความกังวลให้กับประชาชน แม้ในประเทศไทยจะยังไม่พบการระบาดของโรค ซึ่งอุปกรณ์ป้องกันตัวที่ประชาชนนึกถึง คือ หน้ากากอนามัย ซึ่งประชาชนสามารถใช้หน้ากากที่ทำจากผ้า เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจ ส่วนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Face Mask) แนะนำให้ใช้สำหรับผู้ที่มีอาการป่วย เช่น ไอ จาม น้ำมูก
กระทรวงสาธารณสุขจึงขอแนะนำให้ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ สามารถใช้หน้ากากอนามัยที่ทำจากผ้าเป็นทางเลือกนำมาใช้ทดแทนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคได้เช่นเดียวกัน และสามารถซักทำความสะอาดนำมาใช้ซ้ำได้ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังคงต้องดูแลสุขภาพตนเองและคนในครอบครัวด้วยการสร้างสุขอนามัยที่ดี หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่เป็นประจำ หากจำเป็นต้องไปในที่มีผู้คนหนาแน่นหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะ ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการรับหรือแพร่กระจายเชื้อโรค
ในส่วนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดประชุมระดมสมองห้องปฏิบัติการ โรงพยาบาลในเครือข่ายทั้งมหาวิทยาลัยกรมควบคุมโรค และกรมการแพทย์ ได้แก่ ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลรามาธิบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์โรคติดต่ออุบัติใหม่ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน สถาบันบำราศนราดูร ปรับปรุงแนวทางการตรวจทางห้องปฏิบัติการรับมือสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นมาตรฐานเดียวกัน ประชาชนได้รับผลการตรวจที่รวดเร็ว น่าเชื่อถือ และสามารถนำมาใช้ประเมินสถานการณ์ในการควบคุม ป้องกันโรค
โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จัดเตรียมชุดตัวอย่างสำหรับการประเมินความสามารถห้องปฏิบัติการแจกจ่ายไปยังห้องปฏิบัติการเครือข่ายทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุข และขณะนี้มีตัวอย่างส่งมาตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ประมาณ 30-40 ตัวอย่าง/วัน
สำหรับผลการตรวจคัดกรองที่ด่านควบคุมโรค 5 สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ สะสมตั้งแต่วันที่ 3-25 ม.ค.63 จำนวน 137 เที่ยวบิน จำนวน 21,522 คน วันที่ 24-29 ม.ค.63 ท่าอากาศยานเชียงราย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยาน ภูเก็ต ท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คัดกรองผู้โดยสารสายการบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีน 92 เที่ยวบิน ผู้เดินทางและลูกเรือได้รับการคัดกรองจำนวน 6,953 ราย ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่ด่าน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกใน 17 ประเทศ และ 2 เขตปกครองพิเศษ นับตั้งแต่วันที่ 5-29 ม.ค.63 พบผู้ป่วย 6,066 ราย ส่วนในประเทศจีน ข้อมูล ณ วันที่ 27 ม.ค.63 พบผู้ป่วย 5,974 ราย เสียชีวิต 132 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ม.ค. 63)
Tags: กระทรวงสาธารณสุข, อู่ฮั่น, ไวรัสโคโรนา