เงินบาทเปิด 31.04/09 ต่อดอลล์ แนวโน้มแข็งค่า มีโอกาสหลุด 31.00

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ 31.04/09 จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 31.14 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่ามีโอกาสหลุด 31.00 บาท/ดอลลาร์ ให้แนวรับใหญ่ไว้ที่ 31.00 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบเคลื่อนไหวระหว่างวันที่ระดับ 31.00-31.20 บาท/ดอลลาร์ หลังจากตัวเลขส่งออกของไทยที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)แถลงออกมาหดตัวน้อยลง

ตลาดจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนส.ค., ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เป็นต้น
THAI BAHT FIX 3M (31 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.37311% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.41147%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.49/92 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ 105.84 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1950/1990 ดอลลาร์/ยูโร จากวานนี้ที่ 1.1909 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.0780 บาท/ดอลลาร์
  • ธปท.จ่อปรับลดประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยปีนี้ลง 1.3 ล้านคน เหลือ 6.7 ล้านคน จากเดิม 8 ล้านคน ฉุดจีดีพีดิ่งลงอีก 0.5% แต่เศรษฐกิจโดยรวมเดือน มิ.ย.-ก.ค.63 ดีเกินคาดจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองและคนเริ่มท่องเที่ยว-ใช้จ่ายมากขึ้น จับตาการลงทุนภาคเอกชน ยังหดตัวต่อเนื่อง
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันการเงินเริ่มโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ทั้งภาคธุรกิจและลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ลูกหนี้รายย่อย วิธีคือสามารถนำสินเชื่อรายย่อยของผู้ให้บริการทางการเงินเดียวกัน เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อที่เกิดจากการให้เช่าซื้อ มาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยวิธีการรวมหนี้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อใช้ประโยชน์จากหลักประกัน ทำให้ดอกเบี้ยลดลงเหลือไม่เกินอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (เอ็มอาร์อาร์) และทำการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ตามความสามารถของลูกหนี้ รวมทั้งทางเลือกในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้รูปแบบอื่น ๆ ที่ลูกหนี้สามารถจะดำเนินการทำให้ได้เพื่อประโยชน์ทุกฝ่าย
  • รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้หารือกับบริษัทนำเที่ยว เตรียมจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวภายในประเทศเสนอขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานและศึกษาต่อในประเทศไทย (เอ็กซ์แพท) และกลุ่มคนไทย โดยต้องเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ชุมชนต้องได้รับประโยชน์ เช่น เส้นทางท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว โดยมีกิจกรรมตีกอล์ฟให้กับกลุ่มพ่อบ้าน ส่วนกิจกรรมของกลุ่มแม่บ้านก็จัดให้เที่ยวชุมชนใกล้ ๆ สนามกอล์ฟ เพื่อไปทำกิจกรรมท่องเที่ยวและเลือกซื้อสินค้าของชุมชน เพื่อให้ภาพรวมรายได้ของตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศรวมตลอดปีนี้แตะที่ 1.23 ล้านล้านบาท
  • สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยรายงานการส่งออก ข้าวในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-กรกฎาคม) มีปริมาณ 3,295,046 ตัน มูลค่า 69,470 ล้านบาท (2,222.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยปริมาณส่งออกลดลง 32.9% และมูลค่าลดลง 15.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่มีการส่งออกปริมาณ 4,907,467 ตัน มูลค่า 81,847 ล้านบาท (2,596.9 ล้านเหรียญสหรัฐ)
  • สศช.เปิดเวทีระดมความเห็น ปฏิรูปประเทศ 13 ด้าน 2-3 ก.ย.นี้ เตรียมแผน ปี 64-65 ด้านเศรษฐกิจ เร่ง “โลคัล อีโคโนมี” ควบคู่จุดแข็งเมดิคอลฮับ ด้าน “พลังงาน” หนุนเสรีก๊าซ เสรีซื้อขายไฟ “มนูญ” ชี้สำรองไฟสูง แนะปรับพีดีพี
  • นายกฯ เตือนม็อบนัดชุมนุมใหญ่ 19 กันยายนนี้ ต้องถามคนไทย 67 ล้านคนว่า “เห็นด้วย” หรือไม่? เชื่อไม่มีเหตุรุนแรง มั่นใจเจ้าหน้าที่รับมือได้
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เครื่องมือที่เฟดสามารถใช้ได้ในขณะนี้ เช่น การขยายวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นั้น ไม่ใช่แนวทางที่ดีที่สุดสำหรับเฟดในขณะนี้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้กลับสู่การขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
  • รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า หลังจากที่เฟดได้ประกาศกรอบนโยบายการเงินแบบใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะนี้เฟดก็จะกลับมาหารือกันเกี่ยวกับการดำเนินการขั้นต่อไปในการชี้นำนโยบายล่วงหน้า และการเปลี่ยนแปลงในงบดุล
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นเวลาหลายปี ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนนายชินโซ อาเบะ จะยังคงเดินหน้านโยบาย “อาเบะโนมิกส์” ต่อไป
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นเวลานาน
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 1.255 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.จาก ADP, ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนก.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.จากมาร์กิต และดัชนีภาคบริการเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top