นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้กองทัพเรือชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากเข้าใจถึงความกังวลของกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 สภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องการให้นำงบประมาณ 3,375 ล้านบาท ไปใช้ในวัตถุประสงค์ด้านอื่นที่มีความจำเป็นก่อน เช่น การดูแลปัญหาปากท้องประชาชน
พร้อมมอบหมายให้กองทัพเรือไปชี้แจงต่อ กมธ.ประมาณฯ อีกครั้งในวันนี้ และให้ไปการเจรจากับทางการจีนถึงความจำเป็นที่ต้องชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำในครั้งนี้
“นายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลกระทรวงกลาโหมได้พูดคุยภายในกับกองทัพเรือ สรุปว่าให้กองทัพเรือพิจารณาชะลอการสั่งซื้อเรือดำนำลำที่ 2 ที่ 3 ออกไปก่อน”
นายอนุชา กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ประชาชนเข้าใจบทบาทของกองทัพด้วยว่าจะดูแลทรัพยากรของไทยอย่างดีที่สุด รวมถึงรัฐบาลจะต้องดูแลประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง เพื่อให้ทั้งหมดดำเนินการได้สอดคล้องกัน และให้ประชาชนสบายใจและมั่นใจว่าการบริหารราชการแผ่นดินจะเป็นไปด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม
และยืนยันได้ว่าการดำเนินการจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นการทำสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ถูกต้องและสัญญาทำเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่ลำแรกแล้ว ส่วนลำที่ 2 และ 3 นั้นจะเป็นการทำข้อตกลงเพื่อส่งมอบอย่างต่อเนื่องเท่านั้น
ส่วนเรื่องจะมีการชะลอการจ่ายเงินให้กับทางการจีนหรือไม่ ทางกระทรวงกลาโหมและกองทัพเรือคงจะไปพูดคุยกับทางการจีนอีกครั้งหนึ่ง โดยในบ่ายนี้จะมีการประชุมสภากลาโหม คาดว่านายกรัฐมนตรีจะได้มีการสอบถามกองทัพเรือเพิ่มเติมว่ามีการเจรจาอย่างไร ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีรับฟังข้อห่วงใยของประชาชนในการดำเนินการดังกล่าวจึงขอให้กองทัพเรือพิจารณาชะลอเรื่องนี้ออกไปก่อน
สำหรับความคืบหน้าการต่อสู้คดีเหมืองทองอัคราที่รัฐบาลถูกยื่นฟ้องนั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างการพิจารณา เพราะเป็นผู้ดูแลด้านกฎหมายจะทราบเรื่องทั้งหมดและชี้แจงได้ชัดเจนกว่า โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ดำเนินการไปตามกลไกของผู้ที่รับผิดชอบ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ส.ค. 63)
Tags: กองทัพเรือ, จีทูจี, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, วิษณุ เครืองาม, อนุชา บูรพชัยศรี, เรือดำน้ำ