น.ส.ศันสยา ประวีณพร ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธ์ศาสตร์และบริหารความเสี่ยง สายงานวางแผนจัดหาและธุรกิจน้ำมัน บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าการกลั่น (GRM) ที่ไม่รวมผลกระทบจากสต็อก ของกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นในช่วงครึ่งหลังปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ดีขึ้นจากระดับ 3.36 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในครึ่งปีแรก
และคาดจะมีการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ระดับ 1 แสนบาร์เรล/วัน ยังต่ำกว่าการกลั่นน้ำมันที่เคยทำได้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันอากาศยาน (JET) ยังไม่กลับมา แต่หากมีความต้องการน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้น บริษัทก็มีความพร้อมเพิ่มกำลังการกลั่นขึ้นไปได้
ทั้งนี้ บริษัทยังได้เลื่อนแผนปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น ระยะเวลา 39 วัน จากไตรมาส 2/63 ไปเป็นไตรมาส 1/64 โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ก่อนเทศกาลสงกรานต์
นอกจากนี้ธุรกิจการตลาด ความต้องการใช้น้ำมันก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น หรือใกล้เคียงกับปีก่อนแล้ว (ไม่รวมผลิตภัณฑ์น้ำมันอากาศยาน) โดยแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลังนี้บริษัท จะทำงานร่วมกับกลุ่มโรงกลั่นมากขึ้น เพื่อให้ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทดีขึ้น และบริหารจัดการสถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้มีมาร์จิ้นสูงสุด รวมถึงออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เป็นพรีเมียมโปรดักส์เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น B10 หรือกลุ่มแก๊สโซฮอล์ เช่น E20 S EVO และน้ำมันเครื่อง Furio เป็นต้น
ส่วนธุรกิจสถานีบริการ และธุรกิจ Non Oil บริษัทก็มีแผนเปิดสถานีบริการน้ำมันอีก 54 แห่ง ในรูปแบบ Unique Design เพื่อสร้างความสวยงามของสาขา และขยายสาขาร้านอินทนิล เพิ่มอีก 160 แห่ง ในปีนี้
ด้านน.ส.ศุภมล เอี่ยมอ่อน ผู้จัดการส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ BCP กล่าวว่า ด้านธุรกิจอื่นๆ โดยธุรกิจโรงไฟฟ้าของ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) ล่าสุดได้มีการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตรวม 20 เมกะวัตต์ ในบริษัท อาร์พีวี พลังงาน จำกัด (RPV) คาดว่าจะรับรู้รายได้เข้าในไตรมาส 3/63 และคาดจะได้รับผลตอบแทนจากการเข้าไปลงทุนใน Hydropower Plants เพิ่มขึ้น จากเข้าสู่ช่วงของไฮซีซั่น ทำให้มั่นใจว่ากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปีนี้จะเติบโตได้ 20%
ส่วนบมจ.บีบีจีไอ (BBGI) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพนั้น บริษัทคาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงปลายปีนี้ และคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในช่วงกลางปี 64
นอกจากนี้ ยังได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจ Biotechnology ต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับกลุ่มบริษัท ขณะเดียวกันยังมีการลงทุนเพิ่มเติม ได้แก่ การสร้างโรงงาน Refined Glycerin ของบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) คาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ ได้ในไตรมาส 4/63 ด้วยกำลังการผลิต 27,000 ตัน/ปี และการสร้างโรงงานเอทานอล กำลังการผลิต 200,000 ลิตร/วัน คาดเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ ได้ในไตรมาส 4/64
ด้านธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศนอร์เวย์ (OKEA) ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อกิจการ, การลงทุนหลุมปิโตรเลียมใหม่ ๆ โดยมีกำหนดการผลิตน้ำมันในหลุมใหม่ (Gjoa) ในไตรมาส 4/63 และหลุม Yme จะสามารถผลิตน้ำมันครั้งแรกในครึ่งหลังของปี 64
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ส.ค. 63)
Tags: ค่าการกลั่น, บางจาก คอร์ปอเรชั่น, ศันสยา ประวีณพร, โรงกลั่น