นักวิเคราะห์ของสกายบริดจ์ แคปิตอล ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนของสหรัฐคาดการณ์ว่า ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากค่าเงินที่ลดลงอย่างมาก รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลของประเทศทั่วโลกจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
นายทรอย กาเยสกี ผู้บริหารระดับสูงของสกายบริดจ์ แคปิตอลกล่าวว่า การลดลงของค่าเงินโดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินดอลลาร์ รวมทั้งสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ ทำให้นักลงทุนมองว่าสกุลเงินต่างๆ ไม่ใช่การลงทุนทางเลือก แต่กลับเป็นทองคำที่เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
“ทองมีมูลค่าสูงมากเมื่อเทียบกับน้ำมันหรือสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ และผมไม่แปลกใจ หากราคาทองจะพุ่งขึ้นแตะกรอบ 2,100 – 2,200 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีหน้า” นายกาเยสกีกล่าว
เมื่อวันอังคารที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ราคาทองคำทะยานขึ้นทะลุแนว 2,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ราคาทองยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากโควิด-19
ทั้งนี้ เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 63)
Tags: ทองคำ, ราคาทอง, สกายบริดจ์ แคปิตอล