แควนตัส แอร์เวย์ สายการบินแห่งชาติของออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทขาดทุนสุทธิ 1.964 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 12 เดือนซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2563 ซึ่งเป็นการขาดทุนครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของบริษัท เนื่องจากคำสั่งปิดชายแดนระหว่างรัฐเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของตลาดการบินภายในประเทศ
นอกจากนี้ ผลประกอบการของแควนตัสยังได้รับแรงกดดันจากการงดให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ ตามมาตการควบคุมการแพร่ระบาด รวมทั้งมาตรการลดต้นทุนที่ทางบริษัทนำมาใช้เพื่อรับมือกับผลกระทบของโรคโควิด-19
นายอลัน จอยซ์ ซีอีโอของแควนตัสกล่าวว่า ผลประกอบการในช่วงเวลาดังกล่าวถือว่าย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 100 ปีของแควนตัส และการที่เที่ยวบินภายในประเทศจะกลับมาคึกคักได้อีกครั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะเปิดชายแดนทั่วประเทศเมื่อใด
นายจอยซ์กล่าวว่า การล็อกดาวน์รัฐวิกตอเรียเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แต่ไม่ควรสั่งห้ามการเดินทางระหว่างรัฐ เช่น รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย และเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งไม่มีรายงานการติดเชื้อภายในรัฐ
ทั้งนี้ นายจอยซ์ระบุว่า แควนตัสให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศเพียง 20% ของเที่ยวบินตามกำหนดปกติในเดือนส.ค. แต่คาดว่าจำนวนเที่ยวบินอาจเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงกว่า 75% หากมีการเปิดชายแดนระหว่างรัฐทั้งหมด
ส่วนเที่ยวบินระหว่างประเทศส่วนใหญ่นั้น คาดว่าจะยังไม่เปิดให้บริการจนกว่าจะมีการจำหน่ายวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ซึ่งคาดว่าอาจจะเกิดขึ้นในช่วงกลางถึงปลายปี 2564
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 63)
Tags: รัฐวิกตอเรีย, สายการบิน, อลัน จอยซ์, ออสเตรเลีย, เที่ยวบินภายในประเทศ, เที่ยวบินระหว่างประเทศ, แควนตัส แอร์เวย์