บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ออกแถลงการณ์เสนอให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ชะลอการออกประกาศกำหนดกฎเกณฑ์การจัดเรียงลำดับช่องดิจิทัลทีวีบนโครงข่ายโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกฉบับใหม่ไปก่อน
จนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีการฟ้องเพิกถอนประกาศจัดเรียงลำดับช่องรายการ แล้วจึงค่อยพิจารณาเหตุผล ความจำเป็น และแนวทางการจัดเรียงลำดับช่องรายการดิจิตอลทีวีบนโครงข่ายโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่เหมาะสมกับสภาพอุตสาหกรรมและพฤติกรรมของประชาชนผู้ใช้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก
ทั้งนี้ เพื่อความเป็นธรรมและบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนผู้ใช้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่มีอยู่หลายร้อยราย รวมถึงผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกทั้งหมด
ทรู วิชั่นส์ ระบุว่า ตามที่ กสทช.ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่ม (Focus Group) เมื่อวันที่ 4 ส.ค.63 เกี่ยวกับการออกประกาศเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์การจัดเรียงลำดับช่องดิจิทัลทีวีบนโครงข่ายโทรทัศน์แบบอกรับสมาชิกฉบับใหม่ เพื่อจะนำมาใช้บังคับแทนประกาศ กสทช. ในการจัดเรียงลำดับช่องรายการที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกหลายรายได้ฟ้องเพิกถอนประกาศจัดเรียงลำดับช่องรายการดังกล่าวต่อศาลปกครอง โดยในชั้นศาลปกครองกลางก็ได้มีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศดังกล่าวแล้ว และในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด คาดว่าจะมีคำพิพากษาในเร็ววันนี้
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของประกาศการจัดเรียงลำดับช่องดิจิทัลทีวีบนโครงข่ายโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกยังคงเป็นปัญหาที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ดังนั้น การเร่งรัดออกประกาศฉบับใหม่โดยไม่รอคำพิพากษาของศาลมีแต่จะทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการเกิดความสับสนกับการจัดเรียงลำดับช่องดิจิตอลทีวีรูปแบบใหม่บนโครงข่ายโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก ซึ่งไม่ได้เป็นไปเพื่อคุ้มครองประชาชนผู้ใช้บริการอย่างแท้จริง
อีกทั้งยังจะก่อให้เกิดภาระหน้าที่ต่อผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่ต้องลงทุนและปรับเปลี่ยนการจัดเรียงช่องรายการใหม่อีกครั้ง อันจะส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งและเกิดข้อพิพาทระหว่างผู้มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ดังเช่นที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ทรูวิชั่นส์ ระบุว่า บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกเป็นบริการที่เพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนในการรับชมช่องรายการที่มีความหลากหลายในด้านเนื้อหาที่แตกต่างไปจากช่องดิจิทัลทีวีเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการเป็นหลัก ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกซึ่งเป็นผู้ลงทุนสร้างโครงข่ายเพื่อการให้บริการจึงควรมีสิทธิในการบริหารจัดการโครงข่ายได้อย่างเป็นอิสระและมีสิทธิคัดเลือกคัดสรรช่องรายการที่จะนำมาจัดเรียงและนำเสนอให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้บริการเพื่อก่อให้เกิดบริการที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย พร้อมค่าบริการที่เหมาะสม
การที่ กสทช. ออกประกาศจัดเรียงลำดับช่องรายการเพื่อบังคับให้ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกต้องนำช่องดิจิทัลทีวีมาจัดเรียงไว้ในลำดับที่ 1-36 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดบนโครงข่าย รวมถึงจำกัดสิทธิในการประกอบกิจการของผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกอีกหลายประการ เช่น การห้ามนำช่องดิจิทัลทีวีไปออกอากาศซ้ำในตำแหน่งอื่น เป็นต้น จึงเป็นการใช้อำนาจและดุลยพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากประกาศดังกล่าวจำกัดสิทธิเสรีภาพในการประกอบอาชีพของผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกทำให้สูญเสียประโยชน์ที่ควรจะได้รับจากการบริหารจัดการโครงข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการบริหารจัดการหรือใช้ประโยชน์จากโครงข่ายโทรทัศน์ซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกอย่างไม่เป็นธรรม อีกทั้ง ประกาศดังกล่าวยังเป็นการสร้างภาระเกินสมควรอย่างไม่เป็นธรรมต่อผู้ให้บริการที่จะต้องนำช่องดิจิทัลทีวีมาออกอากาศบนโครงข่ายของตนโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใด ๆ ในการออกอากาศ และท้ายที่สุดผลกระทบย่อมจะเกิดขึ้นกับประชาชนผู้ใช้บริการที่ต้องถูกจำกัดทางเลือกในการรับชมช่องรายการและถูกลดทอนความหลากหลายของเนื้อหารายการที่ควรได้รับจากบริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่ตนได้เลือกสมัครใช้บริการเป็นการเฉพาะ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ส.ค. 63)
Tags: กสทช., ทรู วิชั่นส์, ทีวีดิจิทัล, ศาลปกครอง