สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เปิดเผยว่า การเดินทางทางอากาศทั่วโลกจะไม่สามารถฟื้นตัวสู่ระดับที่เทียบเท่ากับในช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19 แพร่ระบาดได้จนถึงปี 2567 ซึ่งแย่กว่าที่เคยออกมาคาดการณ์ครั้งก่อนว่าอาจเห็นการฟื้นตัวสู่ภาวะปกติในปี 2566
นอกจากนี้ IATA ยังประเมินด้วยว่า จำนวนผู้โดยสารเครื่องบินทั่วโลกมีแนวโน้มหดตัวลง 55% ในปี 2563 เพิ่มขึ้นจากที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวเพียง 46%
การคาดการณ์ล่าสุดนี้สอดคล้องกับที่นายอเล็กซานเดอร์ เดอ จูนิแอค ผู้อำนวยการ IATA ได้กล่าวไว้ในช่วงปลายเดือนที่แล้วว่า “อัตราการฟื้นตัวที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ บ่งชี้ว่าธุรกิจการบินอาจต้องใช้เวลานานกว่าที่เราเคยคาดการณ์ไว้อีกหนึ่งปีจึงจะสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้”
ผอ.IATA กล่าวต่อไปว่า แนวโน้มดังกล่าวอาจเลวร้ายลงไปอีก “หากเรายังไม่สามารถรับมือกับไวรัสหรือค้นพบวัคซีนเพื่อมาสกัดการแพร่ระบาดได้”
ข้อมูลของ IATA ระบุว่า การเดินทางทางอากาศของผู้โดยสารทั่วโลกเมื่อวัดจากระยะทางรวมกันแล้ว เริ่มฟื้นตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. โดยมีอัตราการหดตัวเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 86.5% ดีขึ้นจากระดับของเดือนพ.ค. ซึ่งการเดินทางหดตัวลงถึง 91% เนื่องจากหลายประเทศประกาศใช้มาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มการฟื้นตัวดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ IATA ยังคงมองว่า ธุรกิจการบินยังต้องเผชิญความท้าทายจากการที่บริษัทต่างๆ ลดการเดินทางเพื่อธุรกิจลงอันเนื่องมาจากแรงกดดันด้านการเงิน ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคก็ยังคงอยู่ในภาวะอ่อนแอ จากความวิตกกังวลในเรื่องการจ้างงานและความเชื่องช้าในการรับมือกับไวรัสของสหรัฐและประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 63)
Tags: IATA, ธุรกิจการบิน, สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ, สายการบิน