บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) แจ้งกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 เท่ากับ 152 ล้านบาท ลดลง 2,966 ล้านบาท จากไตรมาส 2/62 ที่มีกำไร 3,117 ล้านบาท เนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรจากการโอนเปลี่ยนประเภทเงินลงทุนใน บมจ.ทีทีดับบลิว (TTW)
แต่หากเทียบเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานปกติ กำไรลดลง 632 ล้านบาท หรือ 80% จากการลดลงของรายได้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ในด้านต้นทุนการให้บริการลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 659 ล้านบาท หรือ 26% เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ว่าปริมาณงานจะเพิ่มขึ้นจากการเปิดให้บริการเดินรถสายสีน้ำเงินครบทั้งสายทางตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้หลังจากเดือน ก.พ.63 เป็นต้นมา บริษัทได้รับผลบวกจากค่าตัดจำหน่ายที่ลดลงเนื่องจากต้นทุนของทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วนเอบีซี ได้ตัดจำหน่ายหมดแล้ว
สำหรับปริมาณรถและปริมาณผู้โดยสารได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการผ่อนคลายล็อกดาวน์ โดยเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนกลับมาอยู่ที่ 92% ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT กลับมาอยู่ที่ 80% บริษัทคาดว่าหลังจากมีการผ่อนคลายมากขึ้นและสถานศึกษาต่าง ๆ กลับมาเปิดการเรียนการสอนได้เต็มรูปแบบเหมือนเดิม ปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนและปริมาณผู้โดยสารจะกลับมาเป็นปกติ ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการในไตรมาส 3 ดีขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจากนี้บริษัทมีความพร้อมเต็มที่ในการเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งมีกำหนดยื่นซองวันที่ 23 ก.ย.นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ส.ค. 63)
Tags: BEM, MRT, TTW, ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ, ทีทีดับบลิว, ผลประกอบการ, รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีส้ม