พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานจากหลายภาคส่วน ตลอดจนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด เพื่อทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ในการพิจารณาโครงการที่เหมาะสม ตรงความต้องการประชาชนในแต่ละพื้นที่
“จะมีรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลพื้นที่เดิม และตั้งรัฐมนตรีตรวจสอบพื้นที่ ว่าแผนการใดที่อนุมัติแล้วล่าช้า เกียร์ว่างไหม รัฐมนตรีต้องรายงานสรุปให้ผมทราบ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมระบุว่า การตั้งคณะกรรมการดังกล่าวจะช่วยตอบสองความต้องการของประชาชน รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในระดับพื้นที่ได้อย่างครอบคลุม และแก้ไขปัญหาได้ทันสถานการณ์
“เพราะการที่รัฐบาลจะฟังเองทั้งหมด มันจะห่างจากพื้นที่ต้นทางมากเกินไป ต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นคนคัดกรอง มีรองนายกฯ มีรัฐมนตรีตรวจสอบรับผิดชอบในพื้นที่ ไปแก้ไขปัญหา ไม่เช่นนั้นปัญหาจะขึ้นมากระทบรัฐบาลทันที” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลังจากกล่าวต้อนรับรัฐมนตรีใหม่ก็ได้มอบนโยบายในการทำงานของรัฐบาลในช่วงปีที่ 2 ให้สอดประสานไปกับยุทธศาสตร์ชาติในช่วงปี 61-65 โดยต้องปรับเปลี่ยนรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณให้เหมาะสมกับสถานการณ์โควิดด้วย ซึ่งรัฐบาลจะมีการแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจชี้แจงแนวทางการทำงานของรัฐบาลหลังมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ด้วย
ส่วนการมอบหมายงานให้กับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องสำคัญคือ แก้ปัญหาเรื่องรายได้ประชาชนที่ลดลง เรื่องการตกงาน ช่วยเหลือธุรกิจ SME การส่งออก และ การท่องเที่ยวที่ต้องเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวของคนในประเทศ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เน้นสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศเช่นเดียวกัน
พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ ให้นำ ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฎิบัติหน้าที่ โดยทรงพระราชทานกำลังใจให้ทุกคนปฎิบัติหน้าที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติ ประชาชนโดยรวมมีความสุข ความพึงพอใจ ซึ่งรัฐบาล ครม.ทั้งเก่าและใหม่ก็พร้อมน้อมนำกระแสพระราชดำรัสมาเป็นแนวทางปฎิบัติอย่างเคร่งครัดและเต็มขีดความสามารถ
นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยเรื่องน้ำในประเทศไทย โดยเฉพาะการขุดลอก แหล่งน้ำกักเก็บน้ำไว้ใช้ รวมถึงทรงห่วงใยคูคลองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งเรื่องปัญหาขยะและที่อยู่อาศัยริมคลอง
ด้านน.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการทำงานในรูปแบบใหม่ภายใต้ New Normal โดยมีคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันในระดับประเทศและระดับจังหวัด ซึ่งระดับประเทศจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รองนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการ และรัฐมนตรีเป็นกรรมการ โดยมีปลัดกระทรวงมหาดไทย ผอ.สำนักงบประมาณ เลขาธิการสภาพัฒน์เป็นกรรมการและเลขานุการร่วม มีอำนาจหน้าที่ติดตาม เร่งรัด ช่วยเหลือเยียวยาและแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ โดยเริ่มจากปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วน เพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมและทันเหตุการณ์
ส่วนระดับเขตราชการ จะมีรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย แบ่งเป็น 18 เขตตามที่ได้แบ่งความรับผิดชอบไว้ก่อนหน้านี้ และระดับจังหวัด จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันในระดับจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด โดยให้รัฐมนตรีอีก 29 คน เป็นที่ปรึกษา คำแนะนำและเสนอแนะโดยไม่แทรกแซง
“มีการแบ่งรัฐมนตรีดูแลคนละ 2 จังหวัดเพื่อเข้าไปเป็นที่ปรึกษา มีหน้าที่ให้คำแนะนำ เสนอแนะ สนับสนุนการปฏิบัติงาน การประสานงานกับหน่วยงาน หรือรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยตรง และนำมาเสนอต่อครม.เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ส่วนคณะกรรมการระดับจังหวัด จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีรองผู้ว่าฯ เป็นกรรมการ และมีตำรวจ ผู้แทนท้องถิ่น นักวิชาการ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมมาร่วมเป็นกรรมการ” น.ส.ไตรศุลีระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ส.ค. 63)
Tags: คณะรัฐมนตรี, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ฟื้นฟูเศรษฐกิจ