นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/63 บริษัทมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย,ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ระดับ 860 ล้านบาท สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ 1/63 ในอัตรา 20.5% และ 4.3% ตามลำดับ
ขณะที่ ในช่วง 6 เดือนของปี 63 EBITDA อยู่ที่ 1,684.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.6% โดยทั้งหมดมีสาเหตุจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว Nam San 3A และ Nam San 3B ที่เพิ่งซื้อเข้ามาเมื่อเดือนก.ย.62 และ เดือนก.พ.63 ตามลำดับ โดยได้รับผลบวกจากการทยอยเข้าสู่ช่วงฤดูกาลในปลายไตรมาสที่ 2/63 และจำนวนวันการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศอินโดนีเซียที่ลดลงจากช่วงเดียวกัน
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 42,687.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 5,231.7 ล้านบาท หรือ 14.9%
BCPG แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯเพิ่มเติมว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 354.8 ล้านบาท ลดลง 23.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 38.2% จากไตรมาสก่อน โดยกำไรจากการดำเนินงานปกติ อยู่ที่ 377.1 ล้านบาท ลดลง 12.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 6.6% จากไตรมาสก่อน เป็นผลมาจากการรับรู้ผลการดำเนินงานในช่วงนอกฤดูกาล (Low season) ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ สปป.ลาว ทั้ง 2 แห่ง ซึ่งมีสัดส่วนปริมาณผลิตไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีแรกที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับการผลิตไฟฟ้าทั้งปี ตามปัจจัยทางฤดูกาลปกติของการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำใน สปป.ลาว และการเข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาล (Low season) ของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ส.ค. 63)
Tags: BCPG, EBITDA, บัณฑิต สะเพียรชัย, บีซีพีจี, หุ้นโรงไฟฟ้า, โรงไฟฟ้า