ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์ถัดไป (10-14 ส.ค.) ที่ระดับ 30.90-31.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญ ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน และการเจรจาระดับสูงของผู้แทนการค้าของทั้งสองประเทศในเรื่องผลความคืบหน้าตามข้อตกลงเฟสแรก
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนส.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนก.ค. ด้วยเช่นกัน
สำหรับรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (3-7 ส.ค.) เงินบาทกลับมาอ่อนค่าช่วงท้ายสัปดาห์ หลังจากที่เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ สอดคล้องกับภาพรวมของสกุลเงินเอเชีย ประกอบกับเงินบาทน่าจะได้รับอานิสงส์บางส่วนเพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำด้วยเช่นกัน
โดยเงินบาทแข็งค่าผ่านแนว 31.00 บาทต่อดอลลาร์ แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือนที่ 30.98 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะลดช่วงบวกลงบางส่วนตามการปรับโพสิชัน หลังจากที่ ธปท.เปิดเผยว่า เงินบาทมีความผันผวนมากขึ้น ซึ่ง ธปท.จะติดตามการเคลื่อนไหวของเงินบาทอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ แรงขายเงินดอลลาร์ฯ ยังชะลอลงช่วงท้ายสัปดาห์ ขณะที่ตลาดรอติดตามข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค.
ทั้งนี้ ในวันศุกร์ (7 ส.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.14 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 31.18 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (31 ก.ค.)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ส.ค. 63)
Tags: ค่าเงินบาท, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท