ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตในประเด็นการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)
- ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,543.89 จุด ลดลง 113.49 จุด, -0.50%
- ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,221.99 จุด ลดลง 5.97 จุด, -0.18%
- ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,710.51 จุด ลดลง 62.25 จุด, -0.25%
- ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 12,530.74 จุด ลดลง 55.99 จุด, -0.44%
- ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,258.35 จุด เพิ่มขึ้น 1.36 จุด, +0.06%
- ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,581.48 จุด ลดลง 1.49 จุด, -0.06%
- ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,610.13 จุด เพิ่มขึ้น 0.19 จุด, 0.01%
ตลาดได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของสหรัฐ โดยนายมิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ได้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยระบุว่า มาตรการฉบับใหม่นี้จะมุ่งเน้นในการช่วยเหลือเด็กๆให้กลับเข้าเรียนในโรงเรียนอีกครั้ง และช่วยเหลือพนักงานให้สามารถกลับเข้าทำงาน อีกทั้งปกป้องบริษัทเอกชนไม่ให้ถูกฟ้องร้องทางกฎหมายเกี่ยวกับหนี้สิน
อย่างไรก็ดี พรรคเดโมแครตได้คัดค้านข้อเสนอการปกป้องบริษัทเอกชนไม่ให้ถูกฟ้องร้องทางกฎหมายเกี่ยวกับหนี้สิน ในขณะที่นายแมคคอนเนลยืนกรานว่า เขาจะไม่ยื่นร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้ต่อวุฒิสภาหากไม่รวมข้อเสนอดังกล่าวเอาไว้ด้วย นอกจากนี้ ทั้งสองพรรคยังมีความเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับวงเงินช่วยเหลือผู้ว่างงาน โดยพรรคเดโมแครตต้องการให้รักษาวงเงินดังกล่าวเอาไว้ที่ระดับ 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ แต่พรรครีพับลิกันต้องการให้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 200 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์
ทั้งนี้ สภาคองเกรสสหรัฐมีเวลาอีกไม่นานก่อนที่โครงการช่วยเหลือคนว่างงานจำนวน 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์จะหมดอายุลงในวันที่ 31 ก.ค.นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกยังจับตาผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธที่ 29 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 30 ก.ค.ตามเวลาไทย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมครั้งนี้ และคาดว่าเฟดจะยืนยันการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไปในช่วงหลายปีข้างหน้า
ส่วนในการประชุมครั้งหลังสุดซึ่งมีขึ้นในวันที่ 9-10 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และยืนยันว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งในการรักษาเสถียรภาพของราคา
ทั้งนี้ ในการประชุมวันดังกล่าว เฟดยังคาดการณ์ด้วยว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปี 2563 ก่อนที่จะดีดตัวขึ้น 5% ในปี 2564 และเฟดยังส่งสัญญาณที่จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% ไปจนถึงปี 2565
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ค. 63)
Tags: FBMKLCI, FTSE STI, HSI, KOSPI, NIKKEI, SSE, TAIEX, ตลาดหุ้นเอเชีย