น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกแนวปฏิบัติการใช้เทคโนโลยีชีวมิติ (Biometric Technology) ในการให้บริการทางการเงินเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ให้บริการทางการเงินที่นำ Biometrics มาใช้ในการให้บริการทางการเงิน โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีการเปรียบเทียบใบหน้า (Facial recognition) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลักที่มีการใช้งานในภาคการเงินในปัจจุบัน เพื่อให้ผู้ใช้บริการมั่นใจว่าการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดังกล่าว มีความมั่นคงปลอดภัย สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานสากล ซึ่งจะช่วยยกระดับการให้บริการทางการเงิน และก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการ
แนวปฏิบัติดังกล่าว ครอบคลุมหลักการที่ผู้ให้บริการทางการเงินพึงปฏิบัติ 6 ด้าน ได้แก่
1) การกำหนดนโยบายและการกำกับดูแลการใช้เทคโนโลยีชีวมิติ
2) การรวบรวมข้อมูลชีวมิติของผู้ใช้บริการอย่างมีคุณภาพ ปลอดภัย
3) การประมวลผลข้อมูลชีวมิติของผู้ใช้บริการอย่างแม่นยำ
4) การรักษาความปลอดภัยข้อมูลของผู้ใช้บริการอย่างเข้มงวด และรัดกุม ตามมาตรฐานสากล
5) การคุ้มครองผู้ใช้บริการและให้ความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกรรม ด้วยเทคโนโลยีชีวมิติอย่างเหมาะสมเพียงพอ และ
6) การควบคุมความเสี่ยงด้านปฏิบัติการและรองรับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผู้ให้บริการทางการเงินที่ประสงค์จะนำ Biometrics ไปใช้ให้บริการทางการเงิน จำเป็นต้องปฏิบัติตามแนวปฏิบัติดังกล่าวและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยต้องมีการทดสอบการใช้ Biometrics เพื่อเปรียบเทียบภาพกับแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ (Trusted Source) ภายใต้ Regulatory Sandbox ของ ธปท.ก่อนนำมาใช้จริง ทั้งนี้ หากผู้ให้บริการมีความประสงค์จะประยุกต์ใช้กับธุรกรรมทางการเงินประเภทอื่นๆ จะต้องมีการหารือกับ ธปท.ก่อนเปิดใช้บริการเพื่อความปลอดภัย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ค. 63)
Tags: Biometrics, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธปท., บริการทางการเงิน, สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา, เทคโนโลยีชีวมิติ