ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาววานนี้ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐอาจจะเข้าขั้นเลวร้าย ก่อนที่จะสถานการณ์เริ่มดีขึ้นในวันข้างหน้า
ปธน.ทรัมป์พูดถึงการระบาดที่กินเวลานานเกือบสามเดือนว่า “การระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเลวร้ายลงก่อนที่สถานการณ์จะกลับมาดีขึ้น บางทีผมก็ไม่อยากจะพูดแบบนั้นหรอก แต่มันเป็นเช่นนั้น”
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้เตือนให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย
“ในเมื่อเว้นระยะห่างทางสังคมไม่ได้ เราจึงขอความร่วมมือให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย พกหน้ากากอนามัย” ปธน.ทรัมป์กล่าว “ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม การสวมหน้ากากอนามัยสามารถเห็นผลได้ เราต้องทำทุกอย่างที่เราสามารถจะทำได้”
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ผู้นำในรัฐต่างๆของสหรัฐทำงานกันอย่างหนักหน่วง โดยกล่าวถึงรัฐฟลอริดาว่าตกอยู่ในสถานะที่ยากลำบากอย่างยิ่ง ซึ่งทางรัฐบาลกลางก็กำลังให้ความช่วยเหลือด้านการจัดหาเครื่องช่วยหายใจ เสื้อกาวน์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นให้แก่โรงพยาบาล ขณะเดียวกันปธน.สหรัฐกล่าวว่า ผู้ว่าการของรัฐบางแห่งได้แจ้งว่ายังมีจำนวนเตียงเพียงพอ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาจะไม่เรียกร้องให้มีการปิดประเทศ โดยให้เหตุผลว่า การทำเช่นนั้นไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน แต่จะส่งผลให้เศรษฐกิจทรุดตัวลง และสร้างความเสียหายให้กับระบบสาธารณสุข
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ค. 63)
Tags: COVID-19, สหรัฐ, หน้ากากอนามัย, โควิด-19, โดนัลด์ ทรัมป์