ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า วัคซีนซึ่งบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดนั้น สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมได้สกัดแรงบวกในตลาด
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,680.87 จุด เพิ่มขึ้น 8.92 จุด หรือ +0.03%
- ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,251.84 จุด เพิ่มขึ้น 27.11 จุด หรือ +0.84%
- ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,767.09 จุด เพิ่มขึ้น 263.90 จุด หรือ +2.51%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจาก The Lancet ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ เปิดเผยว่า วัคซีน ChAdOx1 nCoV-19 ที่ได้รับการพัฒนาโดยแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทดลองเฟสแรกกับอาสาสมัครจำนวนมากกว่า 1,000 คน
ทั้งนี้ ผลการทดลองวัคซีนดังกล่าวพบว่า ร่างกายของอาสาสมัครเหล่านี้สามารถผลิตแอนติบอดีและเม็ดเลือดขาวในการกำจัดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ยังมีการพบแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ (Neutralizing antibody) ในอาสาสมัครหลังจากได้รับวัคซีนเป็นเวลา 28 วัน โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าแอนติบอดีดังกล่าวมีความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
หุ้นไฟเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่สุดของสหรัฐ ดีดขึ้น 0.72% ขานรับข่าวไฟเซอร์ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี ทำข้อตกลงกับรัฐบาลอังกฤษในการส่งมอบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวน 30 ล้านโดสในปีนี้และปีหน้า
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นและเป็นปัจจัยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยหุ้นอเมซอนดอทคอม ทะยานขึ้น 7.93% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.11% หุ้นเฟซบุ๊ก บวก 1.4% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 3.1% หุ้นอินเทล บวก 1.92% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) พุ่ง 4.4%
หุ้นดอลลาร์ ทรี ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐที่จำหน่ายสินค้าทุกชนิดในราคาเพียง 1 ดอลลาร์ ปิดตลาดบวก 1.74% หลังจากบริษัทประกาศแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่เมื่อวานนี้
หุ้นโนเบิล เอนเนอร์จี ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซ ทะยานขึ้น 5.4% หลังจากเชฟรอน บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐได้ตกลงซื้อกิจการของโนเบิล เอนเนอร์จี ในวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ข่าวดังกล่าวได้ฉุดราคาหุ้นเชฟรอน ร่วงลง 2.24%
หุ้นกลุ่มอตุสาหกรรมร่วงลงและเป็นปัจจัยสกัดแรงบวกของดัชนีดาวโจนส์ โดยหุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก ดิ่งลง 2.9% หุ้น 3M ร่วงลง 2.16% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ร่วงลง 1.64% หุ้นโบอิ้ง ลบ 0.7%
หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลง หลังจากคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐเปิดเผยว่า ความต้องการด้านการเดินทางในสหรัฐปรับตัวลดลง โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ร่วงลง 3.69% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ดิ่งลง 4.69% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 3.1%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทชั้นนำของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ไมโครซอฟท์, เทสลา, อินเทล และเวริซอน คอมมิวนิเคชันส์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ เนื่องจากโครงการช่วยเหลือคนว่างงานจะหมดอายุลงในวันที่ 31 ก.ค.นี้
นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมิ.ย.จากเฟดชิคาโก, ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 63)
Tags: AstraZeneca, dowjones, Nasdaq, S&P500, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก, หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, แอสตร้าเซนเนก้า