ดาวโจนส์ปิดลบ 135.39 จุด ผิดหวังข้อมูลแรงงานสหรัฐ,หุ้นเทคโนฯร่วง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังสหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง และข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลายลง

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,734.71 จุด ลดลง 135.39 จุด หรือ -0.50%
  • ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,215.57 จุด ลดลง 10.99 จุด หรือ -0.34%
  • ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,473.83 จุด ลดลง 76.66 จุด หรือ -0.73%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.3 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.25 ล้านราย โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 16 แม้ว่ารัฐต่างๆได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และเปิดเศรษฐกิจก็ตาม

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ดิ่งลง 1.98% หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.23% หุ้นอเมซอนดอทคอม ลบ 0.3% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.13% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) ลดลง 0.76%

หุ้นทวิตเตอร์ ร่วงลง 1.09% หลังมีรายงานว่านักการเมืองและบุคคลผู้มีชื่อเสียงในสหรัฐได้ถูกแฮกเกอร์เจาะเข้าบัญชีทวิตเตอร์เพื่อขอให้มีการโอนเงินคริปโตเคอเรนซี โดยบุคคลเหล่านี้รวมถึงนายโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้, นายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ, นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของสหรัฐ และนายบิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์

หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 2.72% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 ร่วงลงกว่า 50% สู่ระดับ 3.28 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากธนาคารต้องเพิ่มการกันสำรองจำนวน 4 พันล้านดอลลาร์สำหรับหนี้เสียจากวิกฤตการณ์โควิด-19

หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ร่วงลง 7.37% หลังจากมีรายงานว่า ทางสายการบินจะส่งจดหมายแจ้งเตือนไปยังพนักงานจำนวน 25,000 คนว่า พวกเขาอาจต้องถูกปลดออกจากงานในเดือนต.ค.นี้ โดยพนักงานเหล่านี้รวมถึงพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินประมาณ 10,000 คน และนักบิน 2,500 คน

หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) บวก 0.67% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไร 1.67 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.49 ดอลลาร์/หุ้น

หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดีดขึ้น 2.4% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 1.96 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.12 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน โดยล่าสุดรัฐบาลสหรัฐได้จำกัดการออกวีซ่าให้กับพนักงานของบริษัทด้านเทคโนโลยีของจีน ซึ่งรวมถึงพนักงานของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ โดยอ้างเหตุผลว่าบริษัทเหล่านั้นมีส่วนสนับสนุนรัฐบาลจีนในการละเมิดสิทธิมนุษยชน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 7.5% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.0%

ทางด้านสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้น 14 จุด สู่ระดับ 72 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับเดียวกับในเดือนมี.ค. ก่อนที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ค. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top