เงินบาทเปิด 31.60 ต่อดอลล์ อ่อนค่าตามแรงซื้อดอลล์

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.60 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.50 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้บาทอ่อนค่า เนื่องจากมีแรงซื้อดอลลาร์ต่อเนื่อง แต่เคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับตลาดโลกที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ค่า หลังตลาดคลายกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากมีความคืบหน้าเรื่องการพัฒนาวัคซีน ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศนั้น มีผลในวงจำกัด

“บาทอ่อนค่าต่อเนื่อง จากแรงซื้อดอลลาร์ สวนทางกับภูมิภาคที่แข็งค่า ส่วนการเมืองในประเทศมีผลในวงจำกัด เนื่องจากแคนดิเดตเป็นคนเดิมๆ แต่ที่แปลกใจคือการลาออกของรองนายกฯ สมคิด”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 31.55-31.70 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (15 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.29802% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.36279%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 106.96 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 106.92 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1415 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1431 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.5170 บาท/ดอลลาร์
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระบุยังไม่เห็นหนังสือลาออกของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และยังไม่ทราบเรื่องที่ 3 รัฐมนตรีในทีมเศรษฐกิจเตรียมยื่นหนังสือลาออก เนื่องจากยังไม่ได้เดินทางเข้าไปทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล
  • นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง พร้อมด้วยสมาชิกกลุ่ม 4 กุมาร ได้แก่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เตรียมยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งผ่านเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในวันนี้
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย หลังจากโมเดอร์นา (Moderna) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ เปิดเผยความคืบหน้าในการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563 ขยายตัว 3.2% ซึ่งฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่หดตัวลง 6.8% ในไตรมาส 1 และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 2.5%
  • ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ในการประชุมวันนี้หลังมีสัญญาณบ่งชี้เพียงเล็กน้อยว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่มีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติผ่อนคลายข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยเห็นชอบให้ปรับลดการผลิตเพียง 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ปรับลด 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,813.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนลดความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกทะยานขึ้นขานรับข่าวความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563 ขยายตัว 3.2% ซึ่งฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่หดตัวลง 6.8% ในไตรมาส 1 และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 2.5%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top