ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดในแดนบวก หลังจากเทศบาลเมืองอู่ฮั่นของจีนประกาศมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชชีน (IBM)
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,186.27 จุด ลดลง 9.77 จุด หรือ -0.03%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,321.75 จุด เพิ่มขึ้น 0.96 จุด หรือ +0.03%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,383.77 จุด เพิ่มขึ้น 12.96 จุด หรือ +0.14%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังจากเทศบาลเมืองอู่ฮั่นของจีนประกาศระงับการบริการขาออกที่สนามบินและสถานีรถไฟตั้งแต่เวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ และจะระงับการให้บริการรถไฟใต้ดินและรถโดยสารด้วย นอกจากนี้ เทศบาลเมืองอู่ฮั่นยังเรียกร้องไม่ให้ประชาชนในท้องถิ่นเดินทางออกจากเมือง ยกเว้นในกรณีที่จำเป็น
ขณะเดียวกันตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดย IBM เปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2562 เพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 2.178 หมื่นล้านดอลลาร์ สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่ารายได้จะลดลง 1% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้น IBM ปิดตลาดพุ่งขึ้น 3.4% เมื่อคืนนี้
หุ้นแอบบอทท์ แลบอราทอรีส์ พุ่งขึ้น 2.37% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2562 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.05 พันล้านดอลลาร์ หรือ 59 เซนต์/หุ้น เทียบกับระดับ 654 ล้านดอลลาร์ หรือ 37 เซนต์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปี 2561
หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 4.1% โดยราคาหุ้นเทสลาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากทำยอดขายเพิ่มขึ้นในประเทศจีน ซึ่งส่งผลให้เทสลาก้าวขึ้นเป็นบริษัทจดทะเบียนรายแรกในตลาดหุ้นนิวยอร์กที่มีมูลค่าตลาดสูงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 3.6% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ แม้ว่าทางบริษัทมีรายได้และจำนวนผู้ใช้บริการสูงกว่าคาดในไตรมาส 4/2562 ก็ตาม
หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 1.4% หลังจากบริษัทเวอร์ติคอล รีเสิร์ช พาร์ทเนอร์ส ประกาศปรับลดราคาเป้าหมายของหุ้นโบอิ้งสู่ระดับ 294 ดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 399 ดอลลาร์ รวมทั้งการที่โบอิ้งแถลงว่า ทางบริษัทไม่คาดว่าทางการสหรัฐจะอนุมัติให้ 737 MAX ขึ้นบินได้อีกครั้ง จนกว่าจะถึงกลางปีนี้ เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการให้ใบอนุญาต และการตรวจสอบระบบควบคุมการบินของเครื่องบิน
หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปิดขยับลง 0.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2562 ที่ระดับ 2.075 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.080 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 3.6% สู่ระดับ 5.54 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2561 ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ดิ่งลงสู่ระดับ -0.35 ในเดือนธ.ค. หลังจากแตะระดับ +0.41 ในเดือนพ.ย.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ม.ค. 63)
Tags: Boeing, dowjones, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก, โบอิ้ง, ไวรัสโคโรนา