SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,574.59 จุด ลดลง 0.35 จุด (-0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 72,912.96 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ รับแรงถ่วงจากหลายกลุ่มหลังวิตกงบประมาณปี 63 จะล่าช้า และยังมีเรื่องภัยแล้งที่เกิดขึ้นในภาคตะวันออก หวั่นกระทบงบฯ-เศรษฐกิจโดยรวม ด้านตลาดภูมิภาควันนี้ฟื้นตัวดีขึ้นหลังตอบรับเรื่องโรคระบาดปอดอักเสบไปแล้ว แม้ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พรุ่งนี้ตลาดยังดูไม่ค่อยดีหลังไม่สามารถยืนเหนือ 1,580 ได้ พร้อมให้แนวรับ 1,566 แนวต้าน 1,583 จุด
- ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,574.59 จุด ลดลง 0.35 จุด (-0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 72,912.96 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,580.34 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,566.86 จุด
- ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 678 หลักทรัพย์ ลดลง 917 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 498 หลักทรัพย์
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ เนื่องจากได้รับแรงถ่วงจากหุ้นหลายกลุ่ม หลังวิตกจะได้รับผลกระทบหากร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เกิดความล่าช้า ทำให้ไปกดดันหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มรับเหมาฯ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องภัยแล้งที่เกิดขึ้นในภาคตะวันออก ซึ่งธุรกิจปิโตรเคมีจะใช้น้ำมากสุด จะเห็นได้ว่าหลายตัวได้ปรับตัวลงแรง จากความไม่แน่ใจสถานการณ์ภัยแล้ง และวิตกอาจกระทบผลดำเนินงาน ทำให้บางแห่งอาจต้องลดกำลังการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับน้ำที่มีอยู่ และบางแห่งอาจมีการปิดซ่อมบำรุงก่อนกำหนด โดยผลประกอบการงวดไตรมาส 4/62 ของกลุ่มปิโตรฯคาดว่าจะอ่อนแอ แต่ตอนนี้เริ่มมองไตรมาส 1/63 อาจจะยังอ่อนแอต่อเนื่อง โดยเฉพาะพวกที่มีฐานการผลิตในภาคตะวันออก
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ดูจะฟื้นตัวดีขึ้นหลังตอบรับเรื่องโรคระบาดปอดอักเสบที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไปแล้ว แต่ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้ติดตามความเสี่ยงเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจที่ตกต่ำอยู่ และภัยแล้ง ซึ่งอาจจะกระทบผลดำเนินงานในไตรมาส 1-2 ได้ และให้ติดตามทิศทางการเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 63 จะเกิดขึ้นได้เมื่อใด รวมถึงติดตามความคืบหน้าของโรคระบาดปอดอักเสบ
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดดูไม่ค่อยดีหลังจากที่ไม่สามารถยืนเหนือ 1,580 จุดได้ พร้อมให้แนวรับ 1,566 จุด ส่วนแนวต้าน 1,583 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BAM มูลค่าการซื้อขาย 7,564.04 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 4,023.23 ล้านบาท ปิดที่ 96.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,681.43 ล้านบาท ปิดที่ 71.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,988.82 ล้านบาท ปิดที่ 99.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,517.34 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 63)
Tags: ตลาดหลักทรัพย์, ตลาดหุ้น, หุ้นไทย