บรรดาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันส่งข้อความ ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊ก วอทส์แอป เทเลแกรม กูเกิล และทวิตเตอร์ พร้อมใจกันปฏิเสธคำร้องขอจากรัฐบาลฮ่องกงที่ต้องการให้แพลตฟอร์มเหล่านี้ส่งข้อมูลของผู้ใช้งานให้กับรัฐบาล ขณะเดียวกันแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเหล่านี้กำลังประเมินผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
เฟซบุ๊ก และ วอทส์แอป ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือของเฟซบุ๊ก ระบุว่า ทางบริษัทจะระงับการทบทวนคำร้องของรัฐบาลฮ่องกงที่ต้องการให้ส่งข้อมูลของผู้ใช้งานในฮ่องกง โดยทางบริษัทกำลังทบทวนผลกระทบของกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ซึ่งรวมถึงผลกระทบที่มีต่อสิทธิมนุษยชน และมีแผนที่จะปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
ทางด้านทวิตเตอร์ได้ระงับคำร้องดังกล่าวของรัฐบาลฮ่องกงหลังจากมีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทวิตเตอร์ระบุว่า ทางบริษัทรู้สึกเศร้าใจต่อกรณีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง เช่นเดียวกับองค์กรและผู้นำภาคประชาสังคมที่ต่างก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้
ทวิตเตอร์ยืนยันว่า ทางบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องประชาชนในการใช้บริการของทวิตเตอร์ รวมทั้งเสรีภาพในการแสดงออกของผู้ใช้งาน
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ และวอทส์แอป มีการดำเนินงานอย่างเสรีในฮ่องกง ขณะที่ถูกบล็อกในจีนแผ่นดินใหญ่ภายใต้มาตรการเซ็นเซอร์ของรัฐบาล หรือ “Great Firewall”
อย่างไรก็ดี แม้ว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ยังไม่ถูกบล็อกในฮ่องกง แต่กลุ่มผู้ใช้งานก็เริ่มลบบัญชีและลบโพสต์ต่างๆที่สนับสนุนประชาธิปไตยออกแล้วในขณะนี้ เนื่องจากกังวลว่าจะถูกผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 63)
Tags: Facebook, Twitter, กฎหมายความมั่นคง, ทวิตเตอร์, เฟซบุ๊ก, โซเชียลมีเดีย