นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้ามีโอกาสลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 35 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลอีกครั้ง จาก 2 ปัจจัยลบ ได้แก่ ผู้ผลิต Shale oil กลับมามีกำไรจากการผลิตน้ำมันดิบ และเพิ่มปริมาณการผลิตมากขึ้น
ทำให้น้ำมันดิบโลกเกิดภาวะอุปทานล้นตลาดอีกครั้ง และสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่มีสถานะทางการเงินอ่อนแอบางประเทศมีโอกาสไม่ทำตามข้อตกลงลดปริมาณการผลิตในขั้นแรกที่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรล ต่อวัน
ปัจจุบันผู้ผลิต Shale oil มีต้นทุนที่ไม่รวมค่าขุดเจาะ (Operating cost) อยู่ที่ประมาณ 30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และในสัปดาห์ที่ผ่านมาปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5 แสนบาร์เรล/วัน จาก 10.5 ล้านบาร์เรล/วัน เป็น 11 ล้านบาร์เรล/วัน นับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน
หากยังคงปริมาณการผลิตในระดับดังกล่าวไปตลอดทั้งปี จะทำให้การผลิตเฉลี่ยทั้งปี 63 ของสหรัฐ อยู่ที่ 11.6 ล้านบาร์เรล/วัน ใกล้เคียงกับคาดการณ์ล่าสุดของกระทรวงพลังงานสหรัฐ แต่หากปริมาณการผลิตยังเพิ่มขึ้นต่อจากนี้ก็อาจทำให้กระทรวงพลังงานสหรัฐ ต้องปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณการผลิต ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันต่อไป
“การผลิตน้ำมันจากสหรัฐ ที่กลับมาเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบโลกเผชิญภาวะอุปทานล้นตลาดอีกครั้ง ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐ ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 1.4 ล้านบาร์เรล เป็น 540 ล้านบาร์เรล สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ชี้ให้เห็นถึงปริมาณน้ำมันดิบส่วนเกินที่ยังเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก”นายคมศรก ล่าว
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นยังทำให้บางประเทศในกลุ่มสมาชิกของโอเปก ที่ยังคงมีสถานะทางการเงินอ่อนแอจากการพึ่งพิงรายได้ทางเดียวจากน้ำมัน เริ่มไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงลดปริมาณการผลิตในขั้นแรกที่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน นำโดยอิรักซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันลำดับที่ 2 ของกลุ่มมีปริมาณการผลิตเกินกว่าโควตาที่ตกลงไว้กว่า 6 แสนบาร์เรล/วัน
ในขณะที่ซาอุดีอาระเบีย แกนนำของกลุ่มโอเปก ซึ่งคงการผลิตน้ำมันดิบต่ำกว่าระดับโควตามาโดยตลอด ยังคงผลิตเกินกว่าโควตาล่าสุดถึง 2 แสนบาร์เรล/วัน อีกทั้ง ประเทศลิเบียก็ได้ประกาศจะกลับมาผลิตน้ำมันเพิ่มในเบื้องต้นที่ 3 หมื่นบาร์เรล/วัน และจะผลิตเพิ่มขึ้นจนเต็มกำลังที่ 3-4 แสนบาร์เรล/วันภายใน 90 วัน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลัง
อนึ่ง สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ปิดตลาดล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. อยู่ที่ 38.49 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มิ.ย. 63)
Tags: shale oil, TISCO, WTI, คมศร ประกอบผล, น้ำมัน WTI, น้ำมันดิบ, โอเปก