นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยในวันอังคาร (23 มิ.ย.) ว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กำลังหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกับสมาชิกสภานิติบัญญัติ และอาจจะมีการอนุมัติในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งนับเป็นความพยายามล่าสุดในการฟิ้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายมนูชินระบุว่า “เป็นสิ่งที่เรากำลังพิจารณากันอย่างจริงจัง” โดยเขาคาดหวังว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในสิ้นปีนี้
คณะบริหารของทรัมป์ได้หารือถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นการจ้างงาน หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ นายมนูชินได้เน้นย้ำว่า เขาและปธน.ทรัมป์ไม่มีแนวโน้มที่จะสั่งปิดเศรษฐกิจสหรัฐรอบ 2 หากไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง
เขากล่าวว่า เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ภาคธุรกิจได้ถูกสั่งปิดทำการ โรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้ป่วย และขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจ
“ทว่าตอนนี้ เราอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม” นายมนูชินกล่าว การล็อกดาวน์ในเดือนมี.ค.และ เม.ย. ทำให้ประชาชนตกงานมากกว่า 40 ล้านราย
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กในการจ่ายเงินเดือนพนักงาน, แจกเงินสดโดยตรงมูลค่า 1,200 ดอลลาร์ให้แก่ครอบครัว และมอบเช็คเงินสดให้กับผู้ตกงานอีกหลายล้านราย ตลอดจนโครงการช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็ก วงเงิน 3.5 แสนล้านดอลลาร์ และเพิ่มวงเงินในภายหลังอีก 3.1 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ และการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 120,000 รายในสหรัฐ และทำให้ประชาชนตกงานหลายล้านคน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มิ.ย. 63)
Tags: ตกงาน, ว่างงาน, สตีเวน มนูชิน, เศรษฐกิจสหรัฐ, โควิด-19, โดนัลด์ ทรัมป์