บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) เตรียมใช้เงินราว 300 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้น 2 โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์ (MW) โดยทั้ง 2 โครงการจะเข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ต่อไป
EP ระบุว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2563 อนุมัติให้บริษัท EPVN W1 (HK) Company Limited (EPVN W1) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และบริษัทในกลุ่ม เข้าลงนามในสัญญาซื้อหุ้นกับกลุ่มผู้ขาย ประกอบด้วย บริษัท Tan Hoan Cau Corporation Joint Stock Company, Mai Van Hue และ Tran Thi Ha My รวมถึงบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท Huong Linh 3 Wind Power Joint Stock Company (Project Company HL3) ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2563 (SPA HL3)
สำหรับการซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท Huong Linh Fresh Energy Development Joint Stock Company (Target Company HL3) ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นที่ประเทศเวียดนาม โดยที่ Target Company HL3 ถือหุ้น 99.8% ใน Project Company HL3 ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ Huong Linh 3 Wind Power Plant Project (โครงการ HL3) ที่มีขนาดกำลังการผลิตเท่ากับ 30 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ EPVN W1 จะเข้าซื้อหุ้นสามัญของ Target Company HL3 จากผู้ขายสำหรับหุ้นทั้ง 100% ที่ราคา 4.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 150.34 ล้านบาท
พร้อมกันนี้อนุมัติให้ EPVN W1 ในฐานะผู้ซื้อ เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นระหว่างบริษัท Tan Hoan Cau Corporation Joint Stock Company, Mai Van Hue และ Tran Thi Ha My ร่วมกันในฐานะผู้ขาย และบุคคลอื่น ในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท Huong Linh 4 Wind Power Joint Stock Company (Project Company HL4) ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2563 (SPA HL4) สำหรับการซื้อหุ้นทั้งหมดใน บริษัท Huong Linh Reproduce Energy Development Joint Stock Company (Target Company HL4) ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นที่ประเทศเวียดนาม โดยที่ Target Company HL4 ถือหุ้น 99.8% ใน Project Company HL4 ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ Huong Linh 4 Wind Power Plant Project (โครงการ HL4) ที่มีขนาดกำลังการผลิตเท่ากับ 30 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ EPVN W1 จะเข้าซื้อหุ้นสามัญของ Target Company HL4 จากผู้ขายสำหรับหุ้นทั้ง 100% ที่ราคา 4.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 150.34 ล้านบาท
สำหรับการซื้อขายไฟฟ้าในโครงการ HL3 ของ Project Company HL3 และโครงการ HL4 ของ Project Company HL4 นั้น Project Company HL3 และ Project Company HL4 แต่ละบริษัท จะเข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าเวียดนาม โดยแต่ละโครงการจะมีระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้า (Feed in Tariff หรือ FIT) ที่ 0.085 เหรียญสหรัฐ ต่อหน่วย
การเข้าทำรายการดังกล่าวเป็นการเข้าทำรายการเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าทั้ง 2 ฉบับ โดยยังไม่มีมติอนุมัติในส่วนของสัญญาก่อสร้างโรงไฟฟ้า (EPC Contracts) แต่อย่างใด เนื่องจากมูลค่าในการก่อสร้างโรงไฟฟ้ามีมูลค่าค่อนข้างสูง และมีรายละเอียดที่ต้องศึกษาพร้อมเงื่อนไขต่าง ๆ ของสัญญาค่อนข้างมาก ทำให้มีความไม่แน่นอนของมูลค่าในการเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ดี ถ้าในอนาคตคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติในส่วนของการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวแล้ว บริษัทจะดำเนินการเปิดเผยข้อมูลรวมถึงการคำนวณขนาดรายการของการเข้าทำรายการเพื่อให้ได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทโดยละเอียดต่อไป
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ ของ EP กล่าวว่า สำหรับมูลค่าการลงทุนของทั้ง 2 โครงการ คาดว่าจะอยู่ที่ราว 2.8 พันล้านบาท โดยเป็นส่วนทุนประมาณ 700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินกู้ ซึ่งเตรียมที่จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทปีละประมาณ 450 ล้านบาท และ EIRR กว่า 15%
“การลงทุนโครงการลมในครั้งนี้ จะเปิดประตูการลงทุนอื่น ๆ ต่อไป และจะช่วยสนับสนุน เพิ่มศักยภาพการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 63 บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากผลกระทบของโรคไวรัสโควิด-19 ได้อย่างแน่นอน โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 30% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,103.73 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้ที่แน่นอนจากธุรกิจโรงไฟฟ้า และมีรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเชื่อว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตสูงอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต” นายยุทธ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มิ.ย. 63)
Tags: EP, พลังงาน, ยุทธ ชินสุภัคกุล, หุ้นไทย, อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป, โรงไฟฟ้า