เงินบาทเปิด 31.08 ต่อดอลล์ ทรงตัวจากวานนี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.08 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.09 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามาเพิ่มเติม

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 31.00-31.20 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ตลาดยังคงจับตามอง ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกสอง, ความขัดแย้งในต่างประเทศ ทั้งปัญหาบริเวณพรมแดนจีนกับอินเดีย ปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน

THAI BAHT FIX 3M (18 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.36027% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.51293%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 106.93 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 107.02 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1207 ยูโร/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1248 ยูโร/ดอลลาร์
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.1250 บาท/ดอลลาร์
  • รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า ในภาวะดอกเบี้ยขาลงช่วงเดือน มี.ค. 63 ที่ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกเผชิญความผันผวน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงส่งผลให้ผู้ออกหุ้นกู้แต่ละราย ต้องเสนอขายหุ้นกู้ในอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น สะท้อนความเสี่ยง โดยเฉพาะหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ หรือหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนที่มีความเสี่ยงสูงกว่าหุ้นกู้ปกติ
  • รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยว่า ได้แนะนักลงทุนให้ทำการศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (perpetual subordinated bond) หรือหุ้นกู้ตลอดชีพที่มีหลายบริษัทเสนอขายแก่ผู้ลงทุนและเป็นที่สนใจมาก เพราะให้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นกู้ปกติ โดยให้ข้อคิดว่า อย่าดูแต่ผลตอบแทนอย่างเดียว ให้พิจารณาความเสี่ยงอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงด้านดอกเบี้ย ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและความเสี่ยงด้านเครดิตที่สะท้อนในเครดิตเรตติ้งเช่น หากไม่มีเรตติ้ง(unrated) หรือเรตติ้งต่ำกว่าระดับที่ลงทุนได้ (non-investment grade) ความเสี่ยงยิ่งสูงจึงมักจะให้ดอกเบี้ยสูงเพื่อจูงใจ
  • “ศักดิ์สยาม” เผย “ก.คมนาคม” เสนอของบฟื้นฟูเยียวยาโควิด-19 วงเงินเกือบ 1.4 แสนล้านบาท วาง 3 กิจกรรม เยียวยา ผู้ประกอบการขนส่งทางบก 7 พันล้าน หนุนซื้อยางพารา 4 หมื่นล้าน อีก 8.5 หมื่นล้านทุ่มสร้างถนนเพิ่มประสิทธิภาพขนส่งสินค้าเกษตร-หนุน ท่องเที่ยว
  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยว่า เอดีบีได้รายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียโดยประเมินว่าในปีนี้เศรษฐกิจเอเชียและแปซิฟิกหรือเอแปกจะเติบโตเพียง 0.1% ลดลงจากที่เคยคาดไว้ 2.2% เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ส่วนประเทศไทยคาดว่าเศรษฐกิจจะติดลบ 6.5% จากเดิมคาดติดลบ 4.8% เพราะการบริโภคและการลงทุนที่ลดต่ำ รวมทั้งการส่งออกและบริการที่ลดลง เพราะผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เชื่อว่าการเติบโตของไทยจะฟื้นตัวขึ้นที่ 3.5% ในปี 64 จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.5% เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดย BoE มีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.10%
    นอกจากนี้ BoE ยังประกาศขยายวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 1 แสนล้านปอนด์ สู่ระดับ 7.45 แสนล้านปอนด์ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
  • เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และขยายวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ส่วนดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัยและมีสภาพคล่องสูง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 ในสหรัฐ
  • ส่วนดอลลาร์ยังคงได้รับแรงซื้อในฐานะสกุลเงินที่ปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดย Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2,234,986 ราย และมีผู้เสียชีวิต 119,943 ราย ส่งผลให้สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.5 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.3 ล้านราย โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 13 แม้ว่ารัฐต่างๆได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และได้เปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำขยับลงไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งยังคงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาด รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19
  • นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นในสัปดาห์หน้า เนื่องจากนักลงทุนมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อันเป็นผลมาจากความขัดแย้งด้านการเมืองระหว่างประเทศ รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19
  • นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่าไวรัสอาจกลับมาแพร่ระบาดรอบสอง หลังพบผู้ติดเชื้อในสหรัฐและจีนเพิ่มขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top