แพทย์เกาหลีใต้แจงปัจจัยเสี่ยงทำให้ผู้ป่วยโควิด-19 มีอาการรุนแรงขึ้น

อัน จูน-ฮอง ศาสตราจารย์ด้านอายุรศาสตร์แห่งศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยยองนัมในเกาหลีใต้เปิดเผยว่า คณะแพทย์ของเกาหลีใต้พบว่ามีภาวะบางประการที่อาจจะทำให้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 บางรายได้รับผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นจากโรคดังกล่าว

ศาสตราจารย์อันเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การค้นพบดังกล่าวอาจช่วยให้แพทย์สามารถระบุตัวตนและให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีความเสี่ยงสูงในการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

ทั้งนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และนักระบาดวิทยากำลังทำการตรวจสอบปัจจัยเสี่ยงต่างๆ สำหรับผู้ป่วยที่มีการพัฒนาอาการของโรคที่รุนแรงขึ้น โดยในปัจจุบันโรคโควิด-19 ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกมากกว่า 400,000 รายแล้วนับตั้งแต่เริ่มแพร่ระบาดในจีนเป็นครั้งแรกในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ศาสตราจารย์อันและแพทย์รายอื่นๆ ของเกาหลีใต้ระบุในรายงานที่เปิดเผยในวารสารวิทยาศาสตร์การแพทย์ของเกาหลีฉบับวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมาระบุว่า โรคเบาหวาน, อุณหภูมิร่างกายที่ระดับสูง, ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดต่ำ และการบาดเจ็บของหัวใจที่มีอยู่เดิมนั้น ล้วนเป็นปัจจัยที่อาจจะทำให้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 มีอาการรุนแรงมากขึ้น

คณะแพทย์ได้ทำการสังเกตอาการของผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 110 รายที่โรงพยาบาลแดกู ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเกาหลีใต้ตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.-15 เม.ย.

ในบรรดาผู้ป่วยดังกล่าวนั้น พบว่า 23 คนมีอาการของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น ซึ่งเอกสารระบุว่า เพราะผู้ป่วยเหล่านั้นมีอายุมากกว่าผู้ป่วยรายอื่นๆ อย่างมาก, ผู้ป่วยเหล่านั้นมีแนวโน้มเป็นโรคเบาหวาน และมีความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดต่ำ

ศาสตราจารย์อันกล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีปัจจัยพยากรณ์โรคดังกล่าวอย่างน้อยที่สุด 3 ใน 4 ปัจจัยนั้น มีการพัฒนาอาการของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น

ศาสตราจารย์อันระบุว่า “ผมเชื่อว่า การใช้ปัจจัยพยากรณ์โรคของผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงนั้น จะเพิ่มโอกาสให้กับคณะแพทย์ในการนำเสนอวิธีการรักษาที่ดีที่สุดตั้งแต่ระยะเริ่มแรกของโรคให้กับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง”

ด้าน Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกระบุว่า เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มขึ้น 45 ราย ณ เที่ยงคืนววันพุธ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 11,947 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 276 ราย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 มิ.ย. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top