โบรกเกอร์ เห็นพ้อง”ซื้อ”หุ้น บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP เล็งผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2/63 โตดีเกินคาด หลังส่งสัญญาณยอดขายในเดือนเม.ย.-พ.ค.63 สูงกว่ายอดขายทั้งไตรมาส 1/63 จากการใช้กลยุทธ์อัดโปรโมชั่นและเพิ่มช่องทางขายออนไลน์อีก
ทั้งยังมีลุ้นโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง (H2/63) ผลักดันกำไรสุทธิปีนี้มีโอกาสเติบโตสวนกระแสภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์
ขณะเดียวกัน AP ยังได้ปรับลดงบซื้อที่ดินในปี 63 จากเดิมประมาณ 8.5 พันล้านบาท เหลือ 3.5-4.0 พันล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินงานในปีนี้และต่อเนื่องในปี 64
ด้านราคาหุ้น AP ยัง Laggard และคาด Dividend Yield สูงกว่า 6%
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.45 น.หุ้น AP อยู่ที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (+4.59%)มูลค่าซื้อขาย 138.20 ล้านบาท
โบรกเกอร์ | คำแนะนำ | ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) |
หยวนต้า (ประเทศไทย) | ซื้อ | 6.55 |
โนมูระ พัฒนสิน | ซื้อ | 6.35 |
ฟินันเซีย ไซรัส | ซื้อ | 6.20 |
ทรีนีตี้ | ซื้อ | 6.30 |
ทิสโก้ | ซื้อ | 6.50 |
ฟิลลิป (ประเทศไทย) | ซื้อ | 6.60 |
เอเชีย เวลท์ | ซื้อ | 6.20 |
เอเซีย พลัส | ซื้อ | 6.30 |
ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) | ซื้อ | 6.45 |
ธนชาต | ซื้อ | 6.30 |
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้เหตุผลที่ยังคงคำแนะนำ”ซื้อ”หุ้น AP แม้ว่าจะยังคงน้ำหนักลงทุนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์น้อยกว่าตลาด (Underweight) เนื่องจากยังไม่เห็นสัญญาณหรือปัจจัยบวกชัดเจนที่จะเข้ามากระตุ้นตลาดอสังหาฯให้พลิกกลับมาเติบโตได้โดดเด่นอีกครั้ง ดังนั้นลงทุนในกลุ่มอสังหาฯควรเน้นกลยุทธ์เลือกหุ้นเป็นรายตัว (Selective Buy) อิงปัจจัยแนวโน้มผลประกอบการที่มีความเสี่ยงต่ำ และมีโอกาสพลิกกลับมาฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้
ปัจจุบันหุ้น AP เป็นหนึ่งในหุ้นที่เข้าข่ายปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าตลาด (Laggard) หลังจากดัชนีหุ้นไทยไต่ระดับขึ้นมาทะลุ 1,400 จุด และคาดจ่ายเงินปันผลรอบปี 63 ที่ 0.43 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ที่สูงกว่า 6% นอกจากนั้น มองว่าผลประกอบการไตรมาส 1/63 ของ AP จะเป็นจุดต่ำสุดก่อนจะค่อย ๆ กลับมาดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2/63 ต่อเนื่องไปถึงครึ่งหลังของปีนี้ ส่งผลให้ประมาณการกำไรปกติปี 63 อยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน
นายภาดล กล่าวต่อว่า แม้ว่า AP จะมีการปรับแผนการดำเนินงานในปี 63 โดยได้เลื่อนการเปิดตัวโครงการแนวสูงทั้งหมด 4 โครงการไปยังปี 64 รวมมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท ทำให้เป้าหมายการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปีนี้อยู่ที่ 33 โครงการ เป็นโครงการแนวราบทั้งสิ้น รวมมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท ลดลง 26.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มีมุมมองเป็นบวกต่อยอดเยี่ยมชมโครงการที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ส่งผลให้ Presale ในเดือน เม.ย.63 ทำได้สูงกว่า 2.3 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบและแนวสูงที่ 1.8 พันล้านบาท และ 486 ล้านบาทตามลำดับ รวมถึงการเลื่อนการเปิดตัวโครงการแนวสูงทั้งหมด เพื่อลดค่าใช้จ่ายและการเสริมสภาพคล่องของบริษัท
ทั้งนี้ สิ้นไตรมาส 1/63 บริษัทมีเงินสดและวงเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินที่ 1.2 หมื่นล้านบาท มากกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นกู้ระยะยาวและตั๋ว B/E ที่จะครบกำหนดในปี 63 ทั้งสิ้น 8.1 พันล้านบาท ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องที่อยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกัน AP ยังได้ปรับลดงบซื้อที่ดินในปี 63 จากเดิมประมาณ 8.5 พันล้านบาท เหลือเป็น 3.5-4.0 พันล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินงานในปี 63 และต่อเนื่องในปี 64
“แม้ว่าปัจจุบันฝ่ายวิจัยฯคงน้ำหนัก “Underweight” หุ้นกลุ่มอสังหาฯ แต่กลยุทธ์ยังเน้นเลือกหุ้นลงทุนเป็นรายตัว โดยยังคงคำแนะนำซื้อหุ้น AP เพราะมีอัพไซด์เมื่อเทียบกับราคาพื้นฐาน มีธุรกิจแนวราบที่แข็งแกร่ง นอกจากนั้นยังเป็นหุ้นเข้าข่าย Laggard มี P/E ต่ำเพียง 5 เท่า และ Dividend Yield กว่า 6% ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/63 ต่อเนื่องไปถึงครึ่งหลังมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากคาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 1/63 เป็นจุดต่ำสุดแล้วจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19″
นายภาดล กล่าว
ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯมีมุมมองเป็นบวกหุ้น AP แนวโน้มยอดขายไตรมาส 2/63 มีโอกาสดีกว่าคาด สะท้อนจากยอดขายเฉพาะในเดือน เม.ย.-พ.ค.63 อยู่ที่ 6.25 พันล้านบาท มากกว่ายอดขายทั้งไตรมาส 1/63 ที่ทำได้ 6 พันล้านบาทไปแล้ว แม้ว่าจะเผชิญกับผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงเดือน เม.ย.ก็ตาม นับว่าการใช้โปรโมชั่นทางการตลาดประสบความสำเร็จหลังจากโครงการใหม่และโครงการเดิมมีผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า
โดยเฉพาะยอดขายคอนโดมิเนียมในเดือน เม.ย.-พ.ค.อยู่ที่ 1 พันล้านบาท มากกว่ายอดขายทั้งไตรมาส 1/63 ที่ทำได้ 900 ล้านบาท ทั้งหมดมาจากการระบายสต็อกเดิมจากกลยุทธ์อัดโปรโมชั่นและเพิ่มช่องทางขายออนไลน์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่า AP จะยังไม่มีแผนโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ แต่แนวโน้มยอดขายคอนโดมิเนียมประเภท Low-Rise ยังคงเติบโต 4% YoY เป็นหนึ่งตัวแปรช่วยสนับสนุนศักยภาพของกำไรสุทธิในปี 2563
สำหรับบทวิเคราะห์ของ บล.กรุงศรี ระบุว่า AP ได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยลดลง และมีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนทั้งแนวโน้มกำไรช่วงที่เหลือของปีน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากมียอดขายที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) มีมูลค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน ส่งผลให้ผลประกอบการ AP ในปี 63 จะเติบโตสวนทางกับผู้ประกอบการรายอื่นที่กำไรสุทธิมีโอกาสหดตัวแรง ทั้งนี้ ประมาณการกำไรสุทธิของ AP ในปี 63 จะเติบโต 8.7% YoY หรืออยู่ที่ 3.33 พันล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มิ.ย. 63)
Tags: AP, Consensus, คอนโดมิเนียม, ภาดล วรรณรัตน์, หุ้นอสังหา, หุ้นไทย, อสังหาริมทรัพย์, เอพี ไทยแลนด์