นายบรูโน เลอแมร์ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ฝรั่งเศสจะยังคงเดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีการให้บริการด้านดิจิทัลต่อไป แม้สหรัฐขู่ว่าจะตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าก็ตาม
นายเลอแมร์กล่าวในระหว่างการประชุมทางไกลของรมว.คลังกลุ่ม G7 เมื่อวานนี้ว่า “เราจะไม่ล้มเลิกแผนการเรียกเก็บภาษีดิจิทัล ผมเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกในกลุ่ม G7 ดำเนินการร่วมกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อให้สามารถบรรลุมติระหว่างประเทศภายในสิ้นปี 2563”
“สิ่งที่สหรัฐเรียกร้องให้กลุ่ม G7 มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนั้น ช่างขัดแย้งกับการที่สหรัฐขู่ว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้ารอบใหม่”
นายเลอแมร์กล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า สหรัฐได้เริ่มตรวจสอบการเรียกเก็บภาษีการบริการดิจิทัลที่กำลังพิจารณาโดย 10 ประเทศคู่ค้าของสหรัฐ ซึ่งได้แก่ สหภาพยุโรป, อินเดีย, ออสเตรีย, บราซิล, สาธารณรัฐเช็ก, อินโดนีเซีย, อิตาลี, สเปน, ตุรกี และสหราชอาณาจักร โดยสหรัฐจะทำการตรวจสอบดังกล่าวภายใต้กฎหมายมาตรา 301
ทั้งนี้ กฎหมายมาตรา 301 ของสหรัฐซึ่งได้มีการปรับเนื้อหากฎหมายด้านการค้าในปี 2517 นั้น อนุญาตให้ประธานาธิบดีสหรัฐสามารถสั่งการให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าหรือใช้มาตรการที่เข้มงวดด้านการค้าต่อประเทศอื่นๆ ได้
เมื่อเดือนก.ค. 2562 ฝรั่งเศสได้ประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีรายได้จากการให้บริการด้านดิจิทัลของบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในฝรั่งเศส โดยจะเรียกเก็บในอัตรา 3% สำหรับบริษัทที่ทำรายได้ในฝรั่งเศสกว่า 25 ล้านยูโร (28 ล้านดอลลาร์) ขณะที่สหรัฐได้ออกมาตอบโต้ด้วยการขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากฝรั่งเศส
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ปีนี้ ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตกลงที่จะชะลอการเก็บภาษีศุลกากรออกไปจนถึงสิ้นปี 2563 และในระหว่างนี้ OECD จะทำการเจรจาต่อรองกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับประเด็นการเก็บภาษีดิจิทัล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มิ.ย. 63)
Tags: บรูโน เลอแมร์, ฝรั่งเศส, ภาษีดิจิทัล, ภาษีนำเข้า, สหรัฐ, เอมมานูเอล มาครง, โดนัลด์ ทรัมป์, โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์