สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% เมื่อคืนนี้ (29 พ.ค.) และปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ค.มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนยังคงมีความหวังว่า สหรัฐ-จีนจะยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟสแรกต่อไป แม้สหรัฐประกาศยกเลิกสถานะพิเศษด้านการค้าของฮ่องกงเพื่อตอบโต้จีนที่จะประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกงก็ตาม นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันดิบที่ลดลงทั่วโลกได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 1.78 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 35.49 ดอลลาร์/บาร์เรล และพุ่งขึ้น 88.4% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2526
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 35.33 ดอลลาร์/บาร์เรล และพุ่งขึ้น 39.8% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2542
สัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้นในเดือนพ.ค.มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการผลิตน้ำมันดิบที่ลดลงทั่วโลก และจากการคาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่พื้นที่ต่างๆ ของสหรัฐรวมถึงนิวยอร์ก ซิตี้ และประเทศอื่นๆ เริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหลังการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า คณะบริหารของเขาจะเริ่มกระบวนการยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกงเพื่อตอบโต้จีนที่จะบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง แต่เขาไม่ได้ระบุถึงผลกระทบที่เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐ-จีนแต่อย่างใด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกที่ว่า ความขัดแย้งด้านการค้าจะกระทบการบริโภคน้ำมัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซของสหรัฐและแคนาดาที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่า ปริมาณน้ำมันดิบในสหรัฐซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกจะปรับลดลงอีก
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยในวันศุกร์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในสหรัฐ ลดลง 17 แท่น สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 301 แท่นในสัปดาห์นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ค. 63)
Tags: การค้าจีน-สหรัฐ, ตลาดหุ้น, น้ำมัน WTI, น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส