- ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (11.30 น.)
- ผู้ติดเชื้อสะสม 3,065 คน (+11)
- รักษาหายแล้ว 2,945 คน (+14)
- ผู้ป่วยรักษาอยู่โรงพยาบาล 63 คน (-3)
- เสียชีวิตสะสม 57 คน (+0)
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 11 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ โดยผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,065 ราย วันนี้มีผู้ป่วยหายป่วยเพิ่มขึ้น 14 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วรวม 2,945 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 63 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงเดิมที่ 57 ราย
ผู้ป่วยทั้ง 11 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quaratine โดยรายแรก เป็นหญิงไทย อายุ 32 ปี กลับจากอินเดีย เข้าพัก State Quaratine ที่จ.สมุทรปราการ ตรวจพบเชื้อ แต่ไม่มีอาการ
อีก 6 ราย กลับจากกาตาร์ เป็นพนักงานนวด เพศชาย 5 ราย อีก 1 ราย เป็นหญิงไทย อาชีพ แม่บ้าน โดย 3 รายไม่มีอาการ
อีก 4 ราย เป็นเพศชาย เดินทางกลับมาจากคูเวต ทำงานที่แคมป์ของบริษัทต่างชาติเดินทางกลับไทย วันที่ 24 พ.ค. พักในโรงแรมใน กทม. ตรวจพบเชื้อวันที่ 26 พ.ค. รายแรกมีอาการปวดศีรษะ จมูกไม่ได้กลิ่น รายที่ 2 มีอาการปวดศีรษะ รายที่ 3 มีน้ำมูก รายที่ 4 มีไข้
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยโควิดที่พบเจอจากสถานกักกันโรคมีทั้งหมด 128 ราย อายุเฉลี่ย 39 ปี ส่วนใหญ่มีสัญชาติไทย จังหวัดที่รับดูแล คือ สงขลา สตูล กทม. ปัตตานี ยะลา ชลบุรี นราธิวาส กระบี่ และสมุทรปราการ
ทั้งนี้ คนกลับมาจากต่างประเทศพบว่า มาจากมาเลเซีย 13,000 กว่าคน อินเดีย 1,800 กว่าคน สหรัฐอเมริกา 1,400 กว่าคน ญี่ปุ่น 777 คน และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) 468 คน แต่ประเทศต้นทางที่กลับมาแล้วเจอผู้ป่วยมากที่สุด คือ อินโดนีเซีย จำนวน 65 คน
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาตัวเลขการติดเชื้อจากต่างประเทศ ซึ่งคือกลุ่มคนที่ไปท่องเที่ยวกลับมาและรวมถึงที่เจอใน State Quarantine ด้วย 128 คน รวมเป็น 621 คน คิดเป็น 20.26% ส่วนการติดเชื้อในประเทศอยู่ที่ 2,444 คน คิดเป็น 79.74%
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการนำคนไทยกลับมาจากต่างประเทศ ในวันที่ 28 พ.ค. จะมาจากออสเตรเลีย 260 คน สหรัฐอเมริกา 100 คน และเวียดนาม 40 คน, วันที่ 29 พ.ค. กลับมาอีก 5 เที่ยวบิน จาก 6 ประเทศ รวม 399 คน วันที่ 30 พ.ค. มา 3 เที่ยวบิน วันที่ 31 พ.ค. 2 เที่ยวบิน วันที่ 1 มิ.ย. 3 เที่ยวบิน วันที่ 2 มิ.ย. 2 เที่ยวบิน วันที่ 3 มิ.ย. 3 เที่ยวบิน และ วันที่ 4 มิ.ย. 2 เที่ยวบิน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มีคนไทยแจ้งความประสงค์กลับมาทางอากาศวันที่ 27 พ.ค.-30 มิ.ย. ที่กระทรวงการต่างประเทศสอบถามจากทั่วโลก พบว่ามีประมาณ 10,878 คน ภายใน 1 เดือนนี้ แต่ลำดับก่อนหลังอยู่ที่เกณฑ์ความเร่งด่วน คือ ด่วนที่สุด คือ เป็นผู้ป่วย ตกค้างสนามบิน (ซึ่งน่าจะหมดแล้ว) วีซ่าหมดอายุ และ กลุ่มด่วนมาก คือ พระสงฆ์ นักเรียน-นักศึกษา คนตกงาน โดยสามารถรับรองได้ประมาณ 400 คนต่อวัน
สำหรับการใช้แพลตฟอร์ม ไทยชนะ.com ณ วันที่ 27 พ.ค. มีจำนวนกิจการ/กิจกรรมลงทะเบียน 120,953 ร้าน จำนวนผู้ใช้งาน 14,719,447 คน จำนวนการเช็คอิน 38,851,693 ครั้ง เช็คเอาท์ 25,830,131 ครั้ง ประเมินร้านค้า 14,980,678 ครั้ง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงเรื่องกิจการและกิจกรรมที่จะผ่อนคลายมาตรการที่ 3 ว่า ยังไม่มีข้อสรุปจนกว่าจะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. นำประชุม
“ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุป ไม่ว่าจะสนามมวย ร้านนวด ก็เป็นเพียงข่าว ยังไม่ยืนยัน แต่ที่บอกได้เป็นกลุ่มก้อนกว้างๆ คือ 1.ห้างสรรพสินค้า ที่ทำได้ดียังไม่มีการติดเชื้อ คนไปก็ใช้ไทยชนะเช็กอินเช็กเอาท์ กิจการนี้มีระบบดูแลอย่างดี อาจได้เปิดร้านรวงต่างๆ ภายในได้มากขึ้น”
กีฬา เพราะเป็นการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรคได้ด้วย จะพยายามเปิดให้มากขึ้นโดยเฉพาะการซ้อมของนักกีฬาที่เป็นตัวแทนระดับต่างๆ ก็มีโอกาสเปิดมากขึ้น
“ส่วนเคอร์ฟิว แนวโน้มได้ปรับลดเวลาลงแน่ๆ จากเดิม 22.00-04.00 น. มาเป็น 23.00-04.00 น. ก็อาจจะลดลงไปอีก แต่จะเป็นเท่าไรให้รอข้อสรุปวันพรุ่งนี้”
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อเปิดกิจการและกิจกรรมในระยะที่ 3 สิ่งที่จะต้องมาพร้อมกันคือ ผู้ประกอบการต้องเข้าสู่การลงทะเบียนในแอพพลิเคชัน ไทยชนะ และผู้ใช้บริการก็ต้องใช้แอพพลิเคชันไทยชนะเช่นกัน เพื่อเช็กอิน-เช็กเอาต์ เนื่องจากกิจการ/กิจกรรมระยะที่ 3 มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูง คนที่มาใช้บริการต้องได้รับการดูแลด้วย
นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผู้ป่วยใหม่ 11 รายวันนี้มาจากการตรวจเจอใน State Quarantine แม้ตัวเลขจะขึ้น แต่เป็นตัวเลขมาจากต่างประเทศ ไม่ใช่ในประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่าการติดเชื้อในประเทศหรือในชุมชนไม่มี เพราะตัวเลขการติดเชื้อในประเทศไม่ได้เป็นศูนย์ ทุกวัน ที่ผ่านมาเจอแค่ 4 ครั้ง แสดงว่าไม่ใช่ไม่มี เพียงแต่หาไม่เจอ เนื่องจากผู้ป่วยอาจไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย
ส่วนรายละเอียดกิจการที่จะได้รับการผ่อนปรนในระยะที่ 3 นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า ขอให้รอความชัดเจนพรุ่งนี้ เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวลักษณะค่อนข้างมีความเสี่ยงระดับปานกลาง-เสี่ยงสูง จึงต้องมีการพิจารณากลั่นกรองอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่กระทรวงสาธารณสุข และ รัฐบาล เห็นด้วยที่จะให้ทุกกิจการกลับมาสู่ปกติ แต่เป็นปกติแบบ New Normal ที่ควรมีมาตรการความปลอดภัยในยุคโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ค. 63)
Tags: COVID-19, ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน, ศบค., ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19, โควิด-19, ไทยชนะ