ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 300 จุด ขานรับหลายประเทศเริ่มคลายล็อก

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ต่อเนื่องจากวานนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ณ เวลา 17.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 351 จุด หรือ 1.4% สู่ระดับ 25,353 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ ขานรับความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากรัฐบาลของประเทศต่างๆเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดทางให้ภาคธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง

หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้

โนวาแวกซ์ (Novavax) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐ แถลงว่า ทางบริษัทได้เริ่มทำการทดลองทางคลินิกเฟสแรกในการทดสอบวัคซีน NVX-CoV2373 กับมนุษย์เป็นครั้งแรกเพื่อตรวจสอบภูมิต้านทานไวรัสโควิด-19 โดยคาดว่าจะสามารถทราบผลเบื้องต้นเกี่ยวกับความปลอดภัย และความสามารถในการกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน (immunogenicity) จากการทดลองดังกล่าวในเดือนก.ค.นี้

ทางด้าน Merck ซึ่งเป็นบริษัทยาของสหรัฐ แถลงว่า ทางบริษัทจะร่วมมือกับ IAVI ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ที่ไม่แสวงหาผลกำไร ในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยจะใช้เทคโนโลยี rVSV ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับการผลิตวัคซีนด้านไวรัส Ebola Zaire

นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยล่าสุดรัฐบาลอังกฤษจะอนุญาตให้มีการเปิดห้างสรรพสินค้าและธุรกิจบางส่วนในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ตามมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์เฟสที่สอง ขณะที่หนังสือพิมพ์ Bild ของเยอรมนีรายงานว่า รัฐบาลเยอรมนีมีแผนที่จะผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมให้เร็วขึ้น 1 สัปดาห์ จากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 5 ก.ค. มาเป็นวันที่ 29 มิ.ย. และตั้งเป้าจะยกเลิกคำเตือนการเดินทางไปยัง 31 ประเทศในยุโรปในช่วงกลางเดือนมิ.ย.นี้

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะทำการประกาศในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับมาตรการตอบโต้จีน หากจีนบังคับใช้ร่างกฎหมายความมั่นคงต่อฮ่องกง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top