นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอสพีซีจี (SPCG) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของโครงการ Ukujima Mega Solar Project ซึ่งเป็นโซลาร์ฟาร์มที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่น ด้วยขนาดกำลังการผลิตรวม 480 เมกะวัตต์ (MW) นั้น
ขณะนี้บริษัทได้ใส่เงินลงทุนรอบสองไปอีกเป็นจำนวนเงิน 1,924,187,000 เยน หรือประมาณ 579,788,330 บาท เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 เรียบร้อยแล้ว และจะชำระทุนครั้งที่ 3 อีก เป็นจำนวนเงิน 64,828,000 เยน หรือประมาณ 19,533,713 บาท ภายในเดือนกันยายน 2563
ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ใส่เงินลงทุนครั้งที่ 1 ไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 2,289,680,925 เยน หรือประมาณ 689,917,497 บาท เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 ตามแผนงานบริษัทจะใส่เงินลงทุนทั้งสิ้น 5 รอบ เป็นเงินจำนวน 9,000,000,000 เยน หรือประมาณ 2,703,742,494 บาท ด้วยเงินลงทุนทั้งโครงการราว 178,758,689,000 เยน หรือคิดเป็น 53,862,853,134 บาท โดยเป็นการลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทที่ 17.92%
โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2562 -2566 โดย Ukujima Mega Solar Project เป็นระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ควบคู่ไปกับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบผสมผสานร่วมกับการทำเกษตรกรรม โครงการดังกล่าวจึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบข้าง ในขณะเดียวกันยังมีส่วนช่วยเหลือในการพัฒนาฐานเกษตรกรรมของเกาะ Ukujima อีกทั้งยังสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สู่ชั้นบรรยากาศกว่า 270,000 ตัน/ปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ค. 63)
Tags: SPCG, พลังงานแสงอาทิตย์, วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ, หุ้นไทย, เอสพีซีจี