รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาทางตัวแทน 82 สหกรณ์ที่ลงทุนในหุ้นกู้บมจ.การบินไทย (THAI) ได้นัดรวมตัวกันที่ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย (ชสอ.) เพื่อออกแถลงการณ์ยืนยันที่จะช่วยเหลือสถานะการเงินของสมาชิกของ 82 สหกรณ์ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อรองรับกรณีสมาชิกรวมตัวแห่ถอนเงินออกจากสหกรณ์ และให้ ชสอ. เน้นย้ำประเด็นหนี้หุ้นกู้การบินไทย ที่มีแค่ 3.6% ของทรัพย์สิน เพื่อให้มีน้ำหนักไม่ให้สมาชิกกังวล
ชสอ. มีการลงทุนในหุ้นกู้ THAI เป็นเงิน 1,911.00 ล้านบาท หรือ มีต้นทุนที่ซื้อในตลาดรองเป็นเงินทั้งสิ้น 1,919.45 ล้านบาท คิดเป็นเพียง 1.25% ของสินทรัพย์รวมที่มีอยู่ 153,799.93 ล้านบาท ขณะที่มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามแนวทาง BASEL ถึง 24.04% โดยลงทุนต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2554 โดยมีกำหนดครบชำระตั้งแต่ปี 2563-2575 ทั้งนี้การลงทุนในหุ้นกู้ THAI ถือเป็นตราสารหนี้ซึ่งชสอ.มีฐานะเป็นเจ้าหนี้
ล่าสุด ชสอ. ยังได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยตามกำหนด ไม่มีเหตุอันเกิดความเสียหาย หุ้นกู้ดังกล่าวเป็นไปตามพ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ. 2542 ตามมาตรา 62 (3) และ (7) และข้อกำหนดของคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ โดยหุ้นกู้ในขณะนั้น ต้องมีอันดับเครดิต (Credit Rating) ไม่ต่ำกว่า A- ซึ่งหุ้นกู้ THAI อยู่ที่ระดับ A และเป็นหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
ขณะที่หุ้นกู้ THAI ที่สหกรณ์ออมทรัพย์เข้าไปลงทุนนั้นจะทยอยครบกำหนดการชำระเงินคืน ตั้งแต่ปี 2563-2577 โดยในปี 63 จะมีครบกำหนดทั้งหมด 20 สหกรณ์ เป็นเงิน 1,108 ล้านบาท เฉลี่ยสหกรณ์ละ 30 – 100 ล้านบาท โดยจะครบเดือนส.ค.และก.ย. นี้ ส่วนใหญ่สหกรณ์ออมทรัพย์เหล่านี้จะปิดบัญชีตามรอบปีบัญชี 31 ธ.ค. 63 และจะต้องตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็ม 100% ถ้าหนี้ไม่ได้รับชำระในปี 63 นี้
อีกทั้งขอให้รัฐบาลกันเงินไว้ค้ำประกันเงินกู้ 4.2 หมื่นล้านบาท เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น โดยอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่รัฐมอบอำนาจมาให้ดูแลสหกรณ์ทั่วประเทศ ต้องช่วยหาทางทำให้หนี้ของสหกรณ์ต้องไม่มีการแฮร์คัต เพราะสหกรณ์ไม่ใช่สถาบันมุ่งแสวงหากำไร ต้องคงยอดนี้เอาไว้ เพราะสมาชิกเป็นคนชั้นกลาง คนรากหญ้า จากนี้ไปสมาชิกจะนัดรวมตัวกันไปพบ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯเพื่อถามหามาตรการรองรับช่วยเหลือสหกรณ์ที่ชัดเจนด้วย
“ชสอ. เชื่อว่า กิจการของ THAI ยังมีศักยภาพในเชิงธุรกิจที่สามารถก้าวเดินต่อไปได้ หลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้บริษัทการบินไทยเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) แล้ว เรามั่นใจและเชื่อว่า จะไม่มีสหกรณ์ใดขาดทุนจากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในปีนี้ และจะส่งผลต่อกำไรสุทธิและเงินปันผลไม่มากนัก ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ ยืนยันว่า มีมาตรการรองรับไม่ให้มีผลกระทบแล้ว”
แถลงการณ์ระบุ
พลตำรวจโท วิโรจน์ สัตยสัณห์สกุล ประธานกรรมการ ชสอ. พร้อมด้วย นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) นายวินัย นิยโมสถ นายไพบูลย์ แก้วเพทาย รองประธานกรรมการ และนายสมนึก บุญใหญ่ ผู้จัดการใหญ่ ชสอ. ได้จัดประชุมกรณีการลงทุนในหุ้นกู้การบินไทย โดยที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกัน ดังนี้
- ชสอ. ร่วมกับเครือข่ายสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศ พร้อมที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันตามหลักการและอุดมการณ์สหกรณ์ โดยได้จัดเตรียมแผนสำรองเงินสภาพคล่อง ไว้เพียงพอตลอดเวลา
- เห็นด้วยกับการฟื้นฟูกิจการของบริษัทการบินไทย ภายใต้กฏหมายล้มละลาย แต่กระบวนการฟื้นฟูจะต้องไม่ทำให้สหกรณ์เจ้าหนี้เสียหายเพราะเป็นเงินของสมาชิก โดยที่ประชุมได้รับทราบมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าการฟื้นฟูกิจการในส่วนหนี้สหกรณ์ 4.2 หมื่นล้านบาท ให้ยืดหนี้ออกไป โดยมีเงื่อนไขจะจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม
- จัดตั้งคณะทำงานเพื่อเป็นตัวแทนสหกรณ์เจ้าหนี้ในการพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 63)
Tags: THAI, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, การบินไทย, ชสอ., วิโรจน์ สัตยสัณห์สกุล, สหกรณ์, เจ้าหนี้, แผนฟื้นฟูกิจการ