กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศกฎเกณฑ์ใหม่ในวันศุกร์ (15 พ.ค.) โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นการส่งมอบเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกให้กับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมของจีน โดยเพิ่มแรงกดดันต่อหัวเว่ยซึ่งถูกขึ้นบัญชีดำอยู่แล้วเนื่องจากเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า กฎเกณฑ์ใหม่ดังกล่าวจะจำกัดขีดความสามารถของหัวเว่ยในการใช้เทคโนโลยี และซอฟท์แวร์ของสหรัฐ เพื่อการออกแบบ และผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของหัวเว่ยในต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทต่างชาติที่ใช้อุปกรณ์ผลิตชิปของสหรัฐจะต้องขอใบอนุญาตจากสหรัฐ ก่อนที่จะทำการส่งมอบอุปกรณ์ดังกล่าวให้กับหัวเว่ย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุในการแถลงข่าวว่า การประกาศดังกล่าวจะเป็นการสกัดกั้นความพยายามของหัวเว่ยในการบ่อนทำลายมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ถือว่า หัวเว่ยซึ่งเป็นผู้นำเครือข่ายสื่อสารไร้สาย 5G นั้น เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐ โดยเชื่อว่าอุปกรณ์ของหัวเว่ยอาจถูกใช้เพื่อทำการจารกรรมข้อมูลทางไซเบอร์ ขณะที่หัวเว่ยปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ในเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ยและบริษัทในเครือ และสั่งให้บริษัทของสหรัฐที่ต้องการส่งออกสินค้าให้กับบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำเหล่านั้น จะต้องขอใบอนุญาตจากทางการสหรัฐ
ด้านหนังสือพิมพ์โกลบอล ไทมส์ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า จีนกำลังวางแผนที่จะดำเนินมาตรการตอบโต้สหรัฐเช่นเดียวกัน ซึ่งรวมถึงการประกาศรายชื่อบริษัทของสหรัฐในรายชื่อ “องค์กรที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ”
นอกจากนี้ มาตรการตอบโต้อื่นๆ อาจรวมถึง การสอบสวน, การกำหนดข้อจำกัดต่างๆ กับบริษัทของสหรัฐ อาทิ แอปเปิล อิงค์ และการระงับสั่งซื้อเครื่องบินจากบริษัทโบอิ้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 63)
Tags: บัญชีดำ, หัวเว่ย, โกลบอล ไทมส์, โดนัลด์ ทรัมป์, โทรคมนาคม