นางสาววรรณี จันทามงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านบัญชีและการเงิน บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) เปิดเผยว่า แนวโน้มภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 63 คาดว่าจะหดตัวลงราว 7% หลังจากไตรมาส 1/63 ยอดขายหดตัวลง 7.4%
และคาดว่าในไตรมาส 2/63 จะเห็นผลกระทบจากโควิด-19 ชัดเจนมากขึ้น จากการปิดสาขาโฮมโปรทั้งในไทยและมาเลเซียเป็นระยะเวลา 1 เดือนครึ่ง ทำให้ไม่มียอดขายจากสาขาที่เป็นช่องทางการขายหลักเข้ามา แม้ว่าจะมีการเปิดขายผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ถือว่ายังไม่สามารถเข้ามาชดเชยได้
นอกจากนั้น บริษัทยังได้เลื่อนการจัดงาน Homepro Expo ออกไป ทำให้ไม่มีกิจกรรมส่งเสริมการขายเข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงที่ผ่านมา จึงคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 จะเป็นไตรมาสที่ถูกกดดันมากที่สุด ซึ่งน่าจะลดลงจากไตรมาส 1/63 แม้ว่าบริษัทจะเตรียมกลับมาเปิดสาขาในไทยทั้งหมดอีกครั้งในวันที่ 17 พ.ค.นี้ แต่การเข้ามาใช้บริการของลูกค้ายังมีข้อจำกัด และระยะเวลาการเปิดลดลงมาเป็นช่วงเวลา 10.00-20.00 น. จากปกติที่เปิดบริการ 9.00-20.00 น.
นายรักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบัญชีและงบประมาณ HMPRO กล่าวว่า ผลกระทบของโควิด-19 ทำให้บริษัทต้องปรับแผนขยายสาขาลดลงเหลือเปิดสาขา HomePro เพียง 2 สาขาในช่วงปลายปีนี้ จากเดิมที่ตั้งเป้าขยายสาขาใหม่ 5 สาขาในปีนี้ พร้อมกับการชะลอขยายสาขาในมาเลเซียออกไป แม้จะมีทำเลที่วางแผนไว้แล้ว ทำให้ในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีสาขา HomePro รวมทั้งหมด 86 สาขา จากปัจจุบันมี 84 สาขา HomePro S จำนวน 9 สาขา Mega Home จำนวน 14 สาขา และ HomePro มาเลเซีย 6 สาขา
ทั้งนี้ บริษัทยังมองว่าโควิด-19 ยังสร้างปัจจัยเสี่ยงที่จะกดดันภาพรวมการดำเนินงานในปีนี้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมาก ดัชนีความมั่นใจของผู้บริโภคออกมาต่ำสุดในรอบหลายปี และอัตราเงินเฟ้อติดลบ ส่งผลกระทบให้กำลังซื้อลดลง และการจับจ่ายใช้สอยชะลอตัวตามไปด้วย ประกอบกับ ข้อจำกัดในด้านการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมค้าปลีกในปีนี้ถูกแรงกดดันอย่างมาก รวมถึงบริษัทที่อยู่ในกลุ่มค้าปลีกด้วย
ในภาวะที่ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนยังมีอยู่มาก บริษัทได้หันมาให้ความสำคัญกับการรักษากระแสเงินสดและสภาพคล่อง เพื่อให้ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และมีเงินเพียงพอรองรับการชำระคืนหนี้ จ่ายเงินเดือนพนักงาน และเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยและการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในทุกสาขาของบริษัทให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ภาครัฐกำหนด เพื่อทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเกิดความมั่นใจในการที่จะกลับมาซื้อสินค้าที่สาขาของโฮมโปรในสัปดาห์หน้า
ส่วนช่องทางออนไลน์ยังคงเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการ ทั้งในด้านการสั่งซื้อและการส่งสินค้า โดยบริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการจัดการส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วภายในวันเดียวหรือวันรุ่งขึ้น เพื่อให้อำนวยความสะดวกแกลูกค้าให้ได้ใช้สินค้าเร็วที่สุด ด้านแคมเปญกระตุ้นการขายในสาขาบริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม หากกำลังซื้อยังไม่กลับมาดีขึ้น การกระตุ้นการขายมากก็จะทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 63)
Tags: HMPRO, รักพงศ์ อรุณวัฒนา, วรรณี จันทามงคล, วัสดุก่อสร้าง, โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์, โฮมโปร